บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ October 5, 2023
ปูพื้นกระเบื้อง เองวิธีซ่อมแซมกระเบื้องชำรุด ที่แม่บ้านก็ทำได้
ปูพื้นกระเบื้อง เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ใหญ่พอสมควรเวลาสร้างบ้าน ทั้งภายในห้องรับแขก, เทอเรสหน้าบ้าน, โรงจอดรถ หรือ กระเบื้องในห้องน้ำเมื่ออยู่อาศัยไปนานๆแน่นอนอยู่แล้วว่าย่อมมีการเสื่อมสภาพเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นกระเบื้องที่มีคุณภาพขนาดไหนก็ไม่รอดพ้นจากการแตกร้าวหรือหลุดร่อนออกมา โดยสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งถ้าเราไม่รีบแก้ไขซ่อมแซมความเสียหายบ้านให้เร็วที่สุด ไม่แน่ว่าอาจเกิดรอยแตกร้าวเป็นบริเวณกว้างเชื่อมโยงไปสู่บริเวณข้างเคียง อาจทำให้แผ่นอื่นๆแตกร้าวตามไปด้วย แต่ถ้าคุณไม่อยากที่จะเสียเงินซ่อมแซมก็สามารถที่จะซ่อมแซมด้วยตนเองได้ไม่ยาก แม่กระทั่งแม่บ้านก็สามารถทำเองได้ เรามาลองดูขั้นตอนการซ่อมแซมกันดีกว่าค่ะ ก่อนที่เราจะเริ่มลงมือซ่อมแซมกระเบื้องชำรุด เราจะต้องตระเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมเสียก่อน จะได้ไม่เกิดการติดขัดระหว่างซ่อมแซม หรือขาดอุปกรณ์ทำให้การซ่อมแซมต้องหยุดชะงักไป ซึ่งอุปกรณ์ที่ต้องใช้คือ
- เทปกาว อาจจะใช้เป็นเทปกาวแบบสีน้ำตาลที่ใช้สำหรับซีลกล่องสินค้าก็ได้
- กระเบื้องที่มีขนาดและสีที่เหมือนกับกระเบื้องแผ่นที่ชำรุด ถ้าหากว่าหาไม่ได้ก็ควรใช้แผ่นที่ใกล้เคียงหรือมีความเหมือนมากที่สุด
- ตะปู 1 ตัว
- ค้อน
- สิ่ว
- ปูนซีเมนต์
- ทราย
- เกียงสำหรับโบกปูน
- ปูนยาแนว
เมื่อเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็มาเข้าสู่ขั้นตอนการซ่อมแซมกันดีกว่าคะ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.นำเทปกาวไปแปะที่บนแผ่นกระเบื้องให้ทั่ว เพื่อที่จะได้ป้องกันไม่ให้รอยแตกร้าวและชำรุดแตกหักขยายเป็นวงกว้างออกไปมากกว่าเดิม แต่ยกเว้นช่วงบริเวณขอบปูนและแผ่นกระเบื้องที่เราต้องการจะซ่อมแซม
2.นำปลายตะปูวางลงไปบริเวณตรงกลางของแผ่นกระเบื้องที่ชำรุด หลังจากนั้นก็นำค้อนทุบให้กระเบื้องแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อที่เราจะได้นำกระเบื้องที่ชำรุดออกมาได้ง่ายมากขึ้น
3.นำสิ่วไปวางลงบนกึ่งกลางของแผ่นกระเบื้อง โดยจัดให้ปลายสิ่วหันไปยังด้านที่อยู่ตรงข้ามกับตัวคุณ พร้อมทั้งวางสิ่วให้ทำมุมกับพื้นให้ได้ประมาณ 45 องศา จากนั้นก็นำค้อนมาทุบไปที่หัวสิ่ว เพื่อที่จะได้แซะกระเบื้องที่ชำรุดและรอยปูนเก่าๆที่ใช้ติดกับแผ่นกระเบื้องออกมาจนกว่าจะถึงชั้นที่เป็นพื้นจริง ซึ่งในช่วงขั้นตอนนี้ให้ทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่ารอยปูนที่อยู่ใต้พื้นกระเบื้องจะหลุดออกมาทั้งหมด
4.เตรียมปูนที่จะนำมาใช้ปูกระเบื้อง ด้วยการผสมปูนและทรายในอัตรา 1 ต่อ 2 ส่วน โดยแต่ละครั้งควรผสมปูนแค่พอประมาณ อย่าผสมให้มากจนเกินไป เพราะจะส่งผลให้ปูนเกิดการแข็งตัวเร็ว ทั้งๆที่ยังใช้ปูนได้ไม่หมด อีกทั้งตัวกระเบื้องที่ชำรุดก็มีแค่ไม่กี่แผ่น จึงไม่จำเป็นต้องผสมเยอะจนเกินไป
5.เมื่อผสมปูนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้นำเกียงมาโบกปูนที่ผสมเสร็จเรียบร้อยแล้วลงไปในบริเวณที่เราต้องการปูกระเบื้องใหม่ อย่าลืมว่าไม่ควรที่จะโบกปูนบางหรือหนาจนเกินไป เพราะจะทำให้กระเบื้องที่เราปูเข้าไปใหม่หลุดร่อนได้ง่าย หรือมีปูนล้นออกมาจากขอบกระเบื้อง หลังจากนั้นให้หยิบแผ่นกระเบื้องแผ่นใหม่ที่ต้องจะเปลี่ยนมากดทับลงไป โดยให้เว้นขอบแต่ละด้านเอาไว้ที่ประมาณ 2-3 มิลลิเมตร แล้วใช้ด้ามปลายเกียงตอกลงไปบนแผ่นกระเบื้องเบาๆ เพื่อที่จะช่วยให้แผ่นกระเบื้องติดแน่นหนามากขึ้น เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้แล้วก็ทิ้งเอาไว้ก่อนจนกว่าปูนที่อยู่ใต้กระเบื้องจะแห้งสนิท
6.หลังจากที่ปูนบริเวณใต้แผ่นกระเบื้องแห้งสนิทดีแล้ว ก็ให้ผสมปูนยาแนวกับน้ำเปล่า ในอัตรส่วนที่ 1 ต่อ 1 ฉาบทับลงไปในบริเวณที่เป็นขอบร่องกระเบื้องให้เต็มครบทุกด้านแล้ว ก็ให้ทิ้งเอาไว้ก่อนรอให้ปูนที่นำมายาแนวแห้งพอหมาดๆ จากนั้นก็ค่อยๆนำฟองน้ำสะอาดมาเช็ดไปที่ขอบยาวแนวทุกด้านจนเสร็จเรียบร้อยเสมอเรียบกันทั้งหมด เริ่มทำความสะอาดพวกรอยคราบสกปรก รวมทั้งรอยเปื้อนต่างๆที่ปรากฎติดอยู่บนผิวพื้นกระเบื้องออกให้หมด เพียงเท่านี้เราก็จะได้กระเบื้องแผ่นใหม่ที่สวยสดใสมาทดแทนกระเบื้องแผ่นเดิมที่ชำรุดเสียหายแล้วค่ะ
วิธีการซ่อมแซมที่เราแนะนำมาให้นี้ สามารถที่จะซ่อมแซมกระเบื้องได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นแผ่นกระเบื้องเล็กๆ อย่างพวกกระเบื้องโมเสก เรื่อยไปจนถึงกระเบื้องแผ่นใหญ่ๆ ที่ใช้กันทั่วไปตามบริเวณพื้นที่ต่างๆภายในบ้าน ซึ่งถ้าหากพบว่ามีการแตกหักหรือชำรุดเสียหายไม่ว่าจะเป็นรอยแตกขนาดใหญ่หรือขนาดเพียงเล็กนิดเดียว คุณก็สามารถที่จะเปลี่ยนใหม่ได้ด้วยตนเองแบบง่ายๆ แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างควรที่ทำคือการขอกระเบื้องที่ปูพื้นจากช่างเก็บไว้ตั้งแต่ขั้นตอนในการก่อสร้างบ้านเพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่าจะต้องซ่อมแซมกระเบื้องเมื่อไหร่ ซึ่งถ้าหากมีการสำรองไว้เราก็จะได้ไม่ต้องยุ่งยากในการไปหากระเบื้องที่เหมือนแผ่นที่ชำรุด ยิ่งถ้าเป็นบ้านที่สร้างมาเป็นระยะเวลานานๆ อาจจะหากระเบื้องลายเดิมไม่ได้อีก เพียงเท่านี้คุณก็จะได้กระเบื้องที่สวยงามกลับมาใช้ได้ตามเดิมค่ะ
พื้นกระเบื้อง ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวบ้าน
การเลือกกระเบื้องเป็นส่วนสำคัญของการปูพื้นในบ้าน โดยมีข้อดีคือง่ายต่อการทำความสะอาดและหาซื้อได้ง่าย และเมื่อเกิดการชำรุดก็สามารถเปลี่ยนได้เพียงบางแผ่น ดังนั้นเราจึงแนะนำเทคนิคการเลือกกระเบื้องให้เข้ากับบ้าน ดังนั้นเทคนิคเลือกกระเบื้องให้เหมาะกับบ้าน หรือการเลือกพื้นกระเบื้องสำหรับปูพื้น จึงควรพิจารณามาตรฐานของกระเบื้องว่ามีร่องรอยหรือตำหนิต่างๆ รวมทั้งสีเรียบเสมอกันหรือไม่ เพราะจะส่งผลให้พื้นภายในห้องดูไม่สวยงาม ควรซื้อเพื่อสำรองไว้ด้วยกรณีที่กระเบื้องมีตำหนิหรือว่าชำรุดเสียหายระหว่าการปู และเผื่อต้องมาทำการซ่อมแซมในภายหลังด้วย โดยการเลือกพื้นกระเบื้องให้เหมาะกับตัวบ้านนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของบ้านอีกด้วย ทั้งนี้กระเบื้องแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป โดยปัจจัยในการเลือกพื้นกระเบื้องให้เหมาะกับตัวบ้านก็จะมีดังนี้
1. เลือกกระเบื้องแผ่นหนา
เพื่อรองรับน้ำหนักจากการเดินเหยียบได้มากขึ้น ควรใช้กระเบื้องปูพื้นที่หนากว่ากระเบื้องปูผนัง และกระเบื้องที่ใช้ปูบนพื้นผิวควรมีการเคลือบด้านหรือมีความสากเสียเล็กน้อยเพื่อป้องกันการลื่นไถลเวลาเดิน
2. เลือกขนาดความกว้างของแผ่นกระเบื้อง
การเลือกกระเบื้องปูพื้นต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์กับการใช้งานในแต่ละห้อง เช่น กระเบื้องขนาด 12 x 12 ตารางนิ้วเหมาะสำหรับห้องโถง แต่กระเบื้องขนาดเล็กลงเหมาะสำหรับห้องน้ำเพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการลื่นไถล
3. การเลือกสีขอบกระเบื้อง
เลือกกระเบื้องที่สวยงามและเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน และตอบโจทย์กับลักษณะพื้นที่ในการใช้งาน เพื่อให้ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น โดยการใช้กระเบื้องสีโทนอ่อนในการปูพื้นที่ภายในอาคารจะทำให้ห้องเล็กดูกว้างขึ้น แต่ถ้านำไปใช้ภายนอกอาคาร กระเบื้องจะเกิดริ้วรอยด่างดำขึ้นอย่างชัดเจนจากแสงแดด ลม และฝน และยิ่งเวลาผ่านไปก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และสำหรับโทนสีเข้มก็จะเหมาะสำหรับใช้ปูพื้นที่ภายนอกอาคารที่ต้องโดนแดดและฝนบ่อยๆ หรือในพื้นที่ภายในบ้านที่ต้องวางเฟอร์นิเจอร์จำนวนมากๆ เช่นห้องครัว โรงรถ ห้องน้ำ ระเบียง เพราะสีเข้มจะช่วยให้ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ และดูแลรักษาได้ง่าย
การเลือกกระเบื้องหินแกรนิต คนเลือกแบบไหน
การเลือกซื้อวัสดุพื้นกระเบื้องต้องพิจารณาคุณสมบัติของวัสดุทั้งสองประเภท เช่น ความแข็งแกร่ง และลวดลายสวยงาม นอกจากนี้ค่าการกันลื่นของกระเบื้องและสำหรับการเลือกกระเบื้องหินแกรนิต ควรเลือกอย่างไร สิ่งสำคัญก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของบ้านเอง โดยกระเบื้องหินแกรนิตนั้นในปัจจุบันมีอยู่หลายชนิดด้วยกันซึ่งคุณสมบัติก็จะมีข้อแตกต่างกันอีกด้วย โดยกระเบื้องหินแกรนิตเป็นหินธรรมชาติที่มีลักษณะเฉพาะตัวด้วยสีและลวดลายที่แตกต่างกันไปตามส่วนประกอบทางเคมีและองค์ประกอบของแร่ธาตุ สีที่พบได้มีทั้งขาว ชมพู ส้ม เทา น้ำตาล และดำ หินแกรนิตมีจำหน่ายทั้งในประเทศและนำเข้า ราคาขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณของเจ้าของบ้าน
และเพื่อรองรับน้ำหนักมากกว่าปกติ ควรสร้างโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น และใช้แผ่นพลาสติกรองพื้นคอนกรีตเพื่อป้องกันความชื้นจากดิน การติดตั้งต้องปรับระดับพื้นด้วยปูนทรายหนา 3-5 ซม. และจัดเรียงลายหินแกรนิตตามลวดลายที่ต้องการ และในส่วนของการติดตั้งกระเบื้องแกรนิโตเหมือนกับกระเบื้องเซรามิกทั่วไป แต่ต้องใช้เครื่องมือจับกระเบื้องสำหรับกระเบื้องขนาดใหญ่ และเว้นร่องยาแนว 2 มิลลิเมตรสำหรับกระเบื้องที่ตัดขอบและ 3 มิลลิเมตรสำหรับกระเบื้องไม่ตัดขอบ เพื่อป้องกันการขยายตัวและดันกันของกระเบื้อง
สำหรับการปูกระเบื้องด้วยตัวเอง ในปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่าย ด้วยอุปกรณ์และกระเบื้องที่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการปูพื้น เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปูกระเบื้อง ก็สามารถทำได้เอง แต่ทั้งนี้การเลือกพื้นกระเบื้องให้เหมาะกับตัวบ้านเองก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญด้วยเช่นกัน ในการปูพื้นกระเบื้องนั้นการเลือกวัสดุนั่นก็คือพื้นกระเบื้องก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกพื้นกระเบื้องทั่วไป หรือพื้นกระเบื้องยาง พื้นกระเบื้องแต่ละชนิดนั้นจะมีเทคนิคการปูที่แตกต่างกันออกไป นอกจากพื้นกระเบื้องหิน สำหรับการปูพื้นกระเบื้องหินหรือการเลือกพื้นกระเบื้องหินนั้นจะมีข้อแตกต่างจากพื้นกระเบื้องทั่วไป ด้วยเพราะน้ำหนักของพื้นกระเบื้องหินนั้นมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะ การปูพื้นกระเบื้องเหล่านี้ควรจะเป็นการติดต่อทีมช่างที่มีความชำนาญ เพื่อที่การปูพื้นกระเบื้องหินจะได้ออกมาสวยงาม ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของเจ้าของบ้าน
โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon