+6687 678 6606 [email protected]

ไอเดียแต่งห้อง ให้บ้านสดใสสว่างขึ้นได้ด้วยตัวเอง

ไอเดียแต่งห้อง คงเป็นสิ่งแรกที่เจ้าของบ้านพยายามค้นหาหลังจากสร้างบ้านเสร็จแล้ว วันนี้เราจึงนำไอเดียการแต่งห้องให้สว่างมาฝากผู้อ่านกัน การที่ได้อยู่บ้านหรือห้องที่สว่างสดใสจะช่วยให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย มีชีวิตชีวา และพร้อมที่จะทำสิ่งดีๆให้กับตนเอง บางคนอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆจากห้องที่สดใสนี้ด้วยก็ได้ แต่หากว่ายังหาทางหลีกหนีจากห้องที่อับแสงไม่ได้ เรามีเทคนิคเด็ดๆที่จะช่วยทำให้บ้านของคุณสว่างสดใสแบบง่ายๆแถมไฉไลกว่าเดิมมาฝากกันค่ะ

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกได้เลย 3 เทคนิคตกแต่งห้องนอนเล็กๆให้น่าอยู่


1.เลือกติดผ้าม่านโปร่งแสง

ไอเดียแต่งห้อง

ผ้าม่านและหน้าต่างมีส่วนสำคัญที่จะช่วยนำแสงให้เข้ามาสู่ห้องซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ฉะนั้นการเลือกใช้ผ้าม่านหรือผ้าซับข้างในอย่างเหมาะสม จะสามารถเพิ่มแสงสว่างให้กับห้องได้และถ้าหากไม่อยากเสียเงินซื้อผ้าซับใน แค่เพียงหาผ้าโปร่งแสงที่มีขนาดเท่ากับผ้าม่าน มาเย็บติดกับผ้าม่านผืนเก่าก็เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังประหยัดเงินได้อีกด้วย แต่ถ้ามีงบประมาณเสียหน่อยลองมองหาผ้าม่านซับในแบบโปร่งแสงสำเร็จรูปแล้วจ้างมาติดตั้งให้ก็ได้เช่นกัน


2.โคมไฟตั้งโต๊ะชนิดโปร่งแสง

ไอเดียแต่งห้อง

โคมไฟเป็นวัสดุอีกชนิดหนึ่งที่จะช่วยให้แสงสว่างกับห้องหรือบ้านของคุณได้ แต่ถ้าหากอยากให้ห้องสว่างเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟ จึงควรเลือกใช้โคมไฟที่เป็นผ้าสีขาวหรือเป็นสีโทนอ่อนจำพวก ผ้าโปร่งอินทรีย์ อย่างเช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน ซึ่งผ้าสองชนิดนี้มีความหนาไม่มาก สามารถกระจายแสงได้ดี ส่งผลให้มีความเรืองแสงทำให้ในห้องสว่างมากขึ้น


3.ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากกระจก

ไอเดียแต่งห้อง

บางห้องที่มีแสงจากธรรมชาติภายนอกส่องสว่างพอเล็ดลอดเข้ามาได้ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีส่วนประกอบของกระจกก็จะช่วยเพิ่มระดับความสว่างของแสงได้ โดยเฉพาะหากนำไปวางใกล้ๆกับจุดที่แสงสามารถส่องกระทบอย่างริมหน้าต่างหรือบริเวณทางเดิน จะยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้ห้องดูเย้ายวนใจกับแสงที่วิบวับ สวยงาม แปลกตาไปอีกแบบ

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกได้เลย ตกแต่งบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ย 10 วิธี 


4.เลือกใช้ประตูบานกระจก

ไอเดียแต่งห้อง

การสร้างบ้านส่วนมากมักจะเลือกใช้ประตูภายในบ้านที่เป็นประตูแบบทึบ ลองเปลี่ยนมาเป็นประตูบานกระจก ก็จะเป็นอีกทางเลือกที่จะส่งผ่านแสงธรรมชาติที่ส่องจากห้องหนึ่งไปสู่อีกห้องหนึ่งได้ โดยเฉพาะการติดแบบให้สอดคล้องรับช่วงกัน จะยิ่งทำให้บ้านสว่างรวมทั้งให้ความรู้สึกโปร่งสบายขึ้น


5.เลือกใช้กำลังวัตต์ที่เหมาะสม

ไอเดียแต่งห้อง

อีกหนึ่งปัญหาที่บ้านแต่ละหลังมักพบเจอบ่อยๆก็คือ การเลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์ไม่เหมาะสมกับขนาดของห้องและการใช้งาน โดยปกติถ้าเป็นหลอดไฟที่ติดตั้งบนเพดานหรือโคมไฟตั้งโต๊ะ จะมีกำลังวัตต์อยู่ที่ประมาณ 75 วัตต์ แต่หากเป็นเพียงแค่จุดเดียวหรือทั้งหมดจะทำให้เกิดความไม่สบายตา ซึ่งมีวิธีแก้ไขง่ายๆเลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์แตกต่างกัน เช่น หลอดไฟแบบ 25 หรือ 40 วัตต์ ติดสลับกันไปกับหลอดไฟ 75 วัตต์ เพื่อความเหมาะสมต่อการใช้งาน


6.ใช้โคมไฟระย้าที่เป็นทรงกลม

ไอเดียแต่งห้อง

การเปลี่ยนหลอดไฟโคมไฟฟ้าระย้าที่มีรูปทรงแท่งมาใช้เป็นหลอดไฟทรงกลม จะช่วยลดบรรยากาศความอึดอัด อุดอู้ในห้องลงไปได้  โดยหลอดไฟลักษณะแบบนี้จะให้แสงสว่างที่แตกต่างกัน เช่น ไฟที่ให้แสงสีเหลืองนวลๆ ซึ่งควรเลือกใช้งานในตำแหน่งห้องที่เหมาะสม อย่าง ห้องนั่งเล่นทำให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย


7.เพิ่มพลังงานให้กับห้องด้วยแสงที่มาจากวัสดุตกแต่ง

ไอเดียแต่งห้อง

แสงเทียนไขเป็นตัวช่วยชั้นดีที่จะเพิ่มความโรแมนติกให้กับห้อง ทำให้ห้องมีมิติจากแสงวูบวาบที่เกิดขึ้นจากเปลวเทียน แต่การเลือกใช้แสงเทียนอาจจะไม่เหมาะสมกับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง เพราะมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดอันตราย หรือถ้าหากอยากได้แสงจากเทียนไขจริงๆเปลี่ยนมาใช้เป็นเทียนไขจากแบตเตอรี่แทนก็ได้


8.เน้นเพิ่มแสงสว่างบางจุดด้วย up lights

ไอเดียแต่งห้อง

การเลือกใช้ up lights หรือพวกไฟสปอตไลท์ดวงขนาดเล็กๆ สามารถนำไปติดตั้งตามที่ต่างๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ มุมบ้าน หรือจะเป็นบริเวณที่ต้องการเพิ่มความโดดเด่นให้กับภายในตัวบ้านก็จะส่งผลให้บ้านสวยงามขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างความปลอดภัยในช่วงเวลากลางคืนได้เป็นอย่างดี


9.ติดตั้งระบบหรี่ไฟ (Dimmer)

ไอเดียแต่งห้อง

บ้านรุ่นใหม่เริ่มมีการนำระบบหรี่ไฟนี้มาใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะเนื่องจากนักออกแบบมองเห็นความสำคัญว่าระบบนี้จะช่วยปรับระดับแสงสว่างที่เหมาะสมกับแต่ละห้องในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เช่น ในช่วงเวลากลางคืนห้องนอนอาจไม่ต้องการแสงสว่างมาก การติดตั้งระบบหรี่ไฟจะทำให้ห้องได้รับแสงที่สมควร


10.เปลี่ยนหลอดไฟเมื่อถึงเวลา

ไอเดียแต่งห้อง

หลอดไฟส่วนใหญ่มักมีอายุการใช้งานหากใช้งานไปเป็นระยะเวลานานๆย่อมเกิดการเสื่อมสภาพจนหมดอายุการใช้งานไปเอง ซึ่งสามารถสังเกตได้จากหลอดไฟที่เคยส่องสว่างสดใส กลับให้แสงสว่างน้อยลงจนถึงขั้นริบหรี่ นั่นก็คือสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟใหม่แล้ว


จากเทคนิคง่ายๆที่นำเสนอมานี้คงช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ภายในบ้านกันบ้างแล้ว ถ้าหากคุณต้องการให้บ้านสดใสอย่างทั่วถึง ก็ควรที่จะสำรวจภายในบ้านดูว่ายังมีห้องหรือมุมไหนของบ้านที่อับแสง แล้วลองนำวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูเพื่อที่จะช่วยให้บ้านของคุณสว่างสดใสอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังช่วยบรรเทาบรรยากาศที่อึมครึมได้เป็นอย่างดีค่ะ