+6687 678 6606 [email protected]

เพดานบ้าน เก่าทำไงดี  มาดูวิธีปรับโฉมเพดานเก่าให้ดูใหม่ขึ้นทันตา

เพดานบ้าน ทราบหรือไม่ว่าแค่เปลี่ยนฝ้าเพดานภายในบ้านใหม่ก็เท่ากับว่าได้ปรับปรุงห้องให้ดูใหม่ทั้งสภาพห้องและบรรยากาศภายในห้อง ซึ่งสามารถทำได้หลายรูปแบบด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งท้องพื้นเปลือยไปจนถึงฝ้าเพดานฝ้าเพดานแบบต่างๆ ทั้ง ฝ้าฉาบเรียบ ฝ้าทีบาร์ ฝ้าเว้นร่อง ฝ้าตกแต่งเล่นลวดลายแพทเทิร์น ฝ้าหลุม ฝ้าซ่อนไฟหลืบ ดังนั้นหากเจ้าของบ้านกำลังคิดอยากปรับปรุงหรือเปลี่ยนฝ้าเพดานในบ้าน อาจจะด้วยเหตุผลฝ้าเดิมแต่มีสภาพเก่า บวม เสียหาย หรือต้องการเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นฝ้ารูปแบบใดๆก็ตาม มีเรื่องที่ต้องนึกถึงประกอบด้วย ยกตัวอย่างเช่น

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกเลย รีโนเวทบ้าน แล้วมีปัญหาทำยังไงดี


1.สภาพของฝ้าเพดานเดิม

เพดานบ้าน

หากต้องการปรับปรุงฝ้าเพดานอันมีสาเหตุมาจากฝ้าเดิมเกิดรอยคราบน้ำ ช้ำ บวม หรือหลุดร่วง ถ้าร่องรอยเสียหายเพียงพื้นที่เล็กน้อยเป็นวงแคบก็สามารถฉาบอุดซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่เฉพาะจุดได้ แต่หากต้องการให้เรียบเนียนขึ้นอาจจะต้องทาสีใหม่ให้ทั่วบริเวณพื้นผิว ส่วนกรณีที่ฝ้าเพดานเกิดความเสียหายเป็นวงกว้างจนถึงขั้นต้องรื้อเปลี่ยนใหม่เกือบทั้งหมดนั้น ก็ใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนรูปแบบการตกแต่งไปด้วยเลยก็ได้

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกเลย ข้อควรคิดก่อนรีโนเวทแยกส่วนต่างๆของบ้าน


2.วัสดุประกอบฝ้าเพดาน

เพดานบ้าน

ในการเลือกวัสดุฝ้าเพดานชุดใหม่ ควรต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของพื้นที่นั้นๆด้วย อย่างเช่น พื้นที่บริเวณนั้นต้องการลดเสียงสะท้อน ด้วยการปรับปรุงห้องนั่งเล่นเดิมให้เป็นห้องโฮมเธียเตอร์ การเลือกวัสดุฝ้าก็ควรเปลี่ยนมาใช้ฝ้ายิปซัมอะคูสติกเพื่อช่วงดูดซับเสียง ส่วนตำแหน่งที่จะต้องเจอกับความชื้นอยู่เสมอ เช่น ห้องน้ำ หรือพื้นที่ใต้ชายคา ก็ควรเลือกใช้วัสดุที่ทนความชื้นได้ เช่น ไวนิล ซีเมนต์บอร์ด หรือจะใช้เป็นแผ่นยิปซั่มรุ่นที่ผลิตมาเพื่อทนความชื้นโดยเฉพาะ


3.โครงคร่าวยึดฝ้าเพดาน

เพดานบ้าน

การปรับปรุงฝ้าเพดานทุกครั้ง อย่าลืมต้องพิจารณาเรื่องการใช้โครงคร่าวที่ได้มาตรฐานประกอบด้วย และควรมีรูปแบบที่เหมาะสมตามประเภทฝ้า เช่น กรณีเปลี่ยนจากฝ้าทีบาร์มาใช้เป็นฝ้าฉาบเรียบก็จะต้องเปลี่ยนโครงคร่าวด้วย หากเป็นฝ้าฉาบเรียบทั่วไปที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเป็นฝ้าหลุม ก็สามารถใช้โครงคร่าวชุดเดิมแล้วปรับแก้แค่บางส่วน ฉะนั้นก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนฝ้าทุกครั้งควรจะต้องตรวจสอบโครงคร่าวเดิมเสียก่อนว่ายังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่ผุพัง และมีความแข็งแรงพอที่จะรองรับฝ้าเพดานชุดใหม่ได้หรือไม่ (ยิ่งเป็นกรณีที่ฝ้าชุดใหม่มีน้ำหนักที่มากกว่าฝ้าชุดเดิม เช่น ฝ้าเดิมเป็นแผ่นยิปซั่ม ส่วนฝ้าใหม่เป็นไม้อัดซีเมนต์ ) แต่ถ้าพบว่าโครงคร่าวเดิมไม่น่าใช้งานก็ควรื้อทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่เช่นกัน


4.งานระบบที่อยู่เหนือฝ้าเพดาน

เพดานบ้าน

โดยปกติแล้วบริเวณที่อยู่เหนือฝ้าเพดานขึ้นไปมักจะเป็นส่วนพื้นที่ของการวางงานระบบ ไม่ว่าจะเป็นการวางท่อน้ำประปา สายไฟ และโคมไฟที่ให้แสงสว่างภายในห้อง หรือบางบ้านก็วางท่อลมแอร์ของระบบปรับอากาศไว้บนฝ้า ซึ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีผลต่อการปรับปรุงฝ้าเพดานทั้งหมด ยิ่งหากมีการเปลี่ยนให้ระดับฝ้าเพิ่มสูงขึ้น หรือจะทำเป็นฝ้าหลุม อย่าลืมดูด้วยว่าจะไม่ชนเข้ากับงานระบบ โดยเฉพาะท่อต่างๆที่เดินอยู่บริเวณเหนือฝ้าเดิม และถ้าเป็นประเภทฝ้าหลุมก็ต้องดูเรื่องระยะช่องว่างสำหรับซ่อนหลอดไฟ รวมถึงตำแหน่งของการเดินสายไฟให้เหมาะสมด้วย


เมื่อพิจารณาถึงข้อควรคิดของการเปลี่ยนฝ้าเพดานใหม่ตามเหตุผลในข้างต้นแล้ว เจ้าของบ้านที่คิดอยากจะปรับปรุงฝ้าเพดานอาจจะถือโอกาสนี้ในการทำฝ้าเพดานเพื่อให้ช่วยลดความร้อนในบ้านไปในตัวด้วยก็ได้ รวมทั้งฝ้าที่อยู่ภายนอกซึ่งมักจะเรียกกันว่า “ฝ้าชายคา” นั่นเอง หากของเดิมใช้เป็นฝ้าทึบอยู่ อาจลองเปลี่ยนมาใช้รุ่นที่สามารถระบายอากาศหรือเปลี่ยนมาติดตั้งระแนงไม้ตีเว้นร่องเพื่อให้อากาศร้อนในโถงหลังคาระบายออกมาได้ ก็จะช่วยให้บ้านร้อนน้อยลง แต่ต้องระวังเรื่องของแมลงที่จะเล็ดลอดเข้ามาทางช่องระบายอากาศด้วย ซึ่งแก้ไขด้วยการติดตั้งมุ้งลวดหรือใช้ฝ้าเพดานระบายอากาศรุ่นที่มีการป้องกันแมลงด้วยในตัว

เพดานบ้าน

ส่วนการปรับปรุงฝ้าเพดานภายในบ้านเพื่อลดความร้อนนั้น จะเน้นไปที่เพดานที่อยู่บริเวณชั้นบนสุดซึ่งจะอยู่ติดกับหลังคา (จากการวัดจะพบว่าความร้อนกว่า 75% ในบ้านมักจะมาจากทางหลังคา) โดยการนำฉนวนใยแก้วกันความร้อนมาติดตั้งเหนือฝ้า คุณสมบัติของฉนวนใยแก้วจะช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนจากบริเวณหลังคาแทรกซึมเข้ามาสู่ภายในบ้านได้ (บ้านที่มีการติดตั้งฉนวนใยแก้วจำเป็นต้องมีช่องทางการระบายอากาศที่เพียงพอด้วย เพื่อให้ความร้อนในบ้านถูกถ่ายเทออกไปสู่ภายนอก) อย่างไรก็ตามตัวฉนวนกันความร้อนใยแก้วจะไปเพิ่มน้ำหนักของระบบฝ้าเพดาน จึงควรที่ต้องคำนึงถึงความสามารถในการรับน้ำหนักของโครงคร่าว รวมทั้งระยะจากฝ้าเพดานถึงใต้ท้องพื้นต้องมีมากพอที่จะติดตั้งฉนวดได้ด้วย

ดังนั้น สามารถสรุปได้ว่าการปรับปรุงเพดานแต่ละครั้ง จะต้องพิจารณาสภาพฝ้าเดิมว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด และเลือกวัสดุฝ้าเพดานชุดใหม่ให้สอดคล้องกับการใช้งานบริเวณพื้นที่นั้นๆ ส่วนตัวโครงคร่าวที่นำมารองรับกับฝ้าเพดาน จะต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมาะสมกับการรับน้ำหนักฝ้าโดยรวม นอกจากนั้นแล้วเจ้าของบ้านต้องไม่ลืมที่จะนึกถึงการจัดการงานระบบที่อยู่เหนือฝ้าด้วย พร้อมกับถือโอกาสปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อลดความร้อนให้กับบ้าน เปรียบเสมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยล่ะค่ะ