บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ June 27, 2023
อ่างอาบน้ำ สุดหรูมักเป็นจุดเด่นที่บ้านรุ่นใหม่มักชูด้วยจุดเด่นนี้ให้ดูพิเศษมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงที่ใช้แรกๆ ก็มีความสุข อาบสนุก แต่พอใช้ไปนานๆ เริ่มรู้สึกว่าทั้งเกะกะ ทำความสะอาดก็ลำบาก ใช้งานไม่สะดวก อายุมากขึ้นการจะก้าวเท้าเข้าอ่างก็ค่อนข้างติดขัด แถมกินพื้นที่ห้องน้ำไปกว่าครึ่ง หลายคนจึงต้องการที่จะเปลี่ยนจากอ่างอาบน้ำเป็นพื้นที่ยืนอาบ โดยจำเป็นต้องคำนึงถึงถึงตำแหน่งของท่อระบายน้ำเดิม ความลาดเอียงที่เหมาะสมของพื้นที่ และระบบกันซึม ซึ่งวันนี้เรามีขั้นตอนการรื้ออ่างน้ำออก เพื่อเปลี่ยนมาเป็นพื้นที่ยืนอาบน้ำ นอกจากนี้ยังมีเกร็ดความรู้ วิธีเลือกกระเบื้องสำหรับปูห้องน้ำตามความหนาของกระเบื้อง และ 5 ไอเดียการเลือกแบบกระเบื้องห้องน้ำสวย ๆ สำหรับคนที่ต้องทำพื้นห้องน้ำใหม่ด้วย
1. เริ่มจากการรื้ออ่างอาบน้ำก่อน
กรณีเป็น อ่างอาบน้ำ แบบที่ฝังบนเคาน์เตอร์ ควรเริ่มต้นด้วยการรื้อเคาน์เตอร์อ่างออกเสียก่อนด้วยการสกัดเคาน์เตอร์ (ส่วนที่เป็นการก่ออิฐฉาบปูนและแต่งด้วยวัสดุตกแต่งผิว) อย่างระมัดระวัง (จะเลือกใช้เป็นเครื่องสกัดไฟฟ้าหรือจะเป็นสว่านไฟฟ้าแบบที่มีตัวกันกระแทกในการสกัด ไม่ควรใช้เป็นค้อนทุบ) เมื่อสกัดออกหมดแล้วให้รื้อวัสดุกรุผิวท็อปเคาน์เตอร์ออก (เช่น พวกหินแกรนิต, หินอ่อน และกระเบื้อง) หลังจากนั้นค่อยถอดอุปกรณ์ประกอบในห้องน้ำส่วนต่างๆ ออก เช่น สะดืออ่าง ก๊อก (อย่าลืมปิดวาล์วท่อน้ำในผนังเสียก่อน หากว่าไม่มีวาล์วน้ำจึงต้องปิดมิเตอร์น้ำหรือหาอะไรมาอุดกันน้ำซึมออกมา) จากนั้นจึงค่อยยกอ่างอาบน้ำออกมา ส่วนถ้าเป็นอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวให้เริ่มจากการถอดอุปกรณ์ประกอบอ่างทั้งหมดออกให้เรียบร้อย แล้วจึงค่อยๆ รื้ออ่างอาบน้ำออกมาได้
2. เคลียร์พื้นที่ รวมทั้งพิจารณาตำแหน่งของท่อระบายน้ำ
ทำการเคลียร์พื้นที่บริเวณรอบๆ ที่เคยทำการติดตั้งอ่างเดิมให้สะอาดเรียบร้อย หลังจากนั้นมาถึงขั้นตอนการพิจารณาตำแหน่งท่อน้ำทิ้งเดิม (ปกติท่อน้ำทิ้งของอ่างน้ำจะมีอยู่หนึ่งจุด) ว่าตรงกับตำแหน่งส่วนที่ยืนอาบน้ำหรือไม่ (ตำแหน่งที่ควรยืนอาบน้ำมักจะอยู่ที่มุมในสุดของห้องน้ำ) แต่ทว่าจุดน้ำทิ้งเดิมไม่อยู่มุมห้อง อยู่ตรงกลางส่วนอาบน้ำ หรืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่สมควร) ฉะนั้น สามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้หลายวิธีด้วยการเรียงลำดับได้ตามนี้
- ใช้ท่อน้ำทิ้งเดิม ด้วยการเลือกว่าจะปรับความลาดเอียงของพื้นให้น้ำไหลไปตำแหน่งท่อน้ำทิ้งทั้งหมด เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ดี หรือจะเลือกใช้วิธีติดตั้งตู้อาบน้ำที่สามารถเชื่อมต่อท่อน้ำมาทิ้งยังจุดเดิมก็สะดวกอยู่เช่นกัน
- ย้ายตำแหน่งของท่อน้ำทิ้ง ด้วยการเจาะพื้น Coring ใส่ท่อ PVC และติดตั้งข้อต่อเพื่อพ่วง (จัมพ์) ท่อน้ำทิ้งใหม่ไปสู่ท่อน้ำทิ้งเดิมหรือท่อน้ำทิ้งอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณห้องน้ำ และหล่อคอนกรีตเพื่ออุดรูปิดท่อน้ำทิ้งเดิม ซึ่งในขั้นตอนนี้ควรต้องหาผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาตรวจสอบเหล็กเสริมพื้นคอนกรีตก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เจาะโดนเหล็กที่จะส่งผลกระทบกับการรับน้ำหนัก และควรเลือกช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาดำเนินการย้ายตำแหน่งของท่อน้ำทิ้ง เพราะจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการรั่วซึมมากกว่า หากว่าทำไม่ถูกวิธี
3. ปรับระดับพื้นที่ แบ่งแยกโซนแห้งกับโซนเปียก
เมื่อปรับพื้นที่ให้มีความลาดเอียงเหมาะสม (อัตรส่วนอยู่ที่ 1:200) ไปยังตำแหน่งของท่อระบายนำทิ้ง (Floor Drain) จะได้ให้น้ำสามารถระบายน้ำไปยังท่อน้ำทิ้งใหม่ได้ดี ด้วยการเผื่อความหนาของกระเบื้องใหม่ที่จะนำมาปูแทน และควรนึกถึงการแยกโซนเปียกโซนแห้ง ดังนี้
- ลดระดับพื้นในส่วนโซนเปียกลงไม่ต่ำกว่า 5 ซม. ให้ต่ำกว่าโซนแห้ง
- ทำขอบกั้นขึ้นเพื่อเป็นการแบ่งกั้นพื้นที่ของโซนเปียกกับโซนแห้งอย่างชัดเจน
- ทำพื้นให้อยู่ระดับเดียว วิธีนี้จะต้องสกัดและเจาะพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อฝังท่อระบายน้ำทิ้งกันกลิ่นแบบรางหรือแบบยาวในตำแหน่งใหม่
4. ปรับระบบกันซึมให้ดี ติดตั้งกระเบื้องพื้นและผนังส่วนที่เคยติดตั้งเป็นอ่างอาบน้ำเดิม
ในส่วนสุดท้ายคือการป้องกันการรั่วซึม และติดตั้งกระเบื้องพื้นผนังส่วนที่เคยเป็นตำแหน่งอ่างอาบน้ำเดิม ด้วยการเลือกกระเบื้องอย่างเหมาะสม กรณีที่มีการรื้อเคาน์เตอร์อ่างอาบน้ำออกจะเห็นผิวปูนในส่วนที่ติดกับอ่าง ดังนั้น การเลือกกระเบื้องผนังสามารถที่จะเลือกให้ใกล้เคียงกับเฉดสีเดิมหรือหากระเบื้องรุ่นเดิมได้ก็ยิ่งดี หรือจะลองตกแต่งให้มีลูกเล่นบางส่วนเพิ่มเติมสร้างความแตกต่างออกไป หรืออาจจะรื้อกระเบื้องผนังที่เคยเป็นอ่างอาบน้ำออกแล้วจึงเริ่มปูใหม่ทั้งหมด สำหรับกระเบื้องพื้นในส่วนอาบน้ำ สามารถที่จะเลือกให้เป็นเฉดสีเดิมหรือใกล้เคียงกับพื้นที่โซนแห้งก็ได้ แต่ถ้าเป็นการรื้ออ่างอาบน้ำแบบลอยตัวออก จะไม่มีผลกระทบกับส่วนของกระเบื้องผนังเสียเท่าไหร่ หรือถ้ากระทบก็แค่เพียงบางส่วนซึ่งสามารถที่จะหากระเบื้องใหม่มาเพิ่มลูกเล่นให้มีความแตกต่างและสวยงามได้
แนวทางการเปลี่ยนอ่างอาบน้ำให้เป็นพื้นที่ยืนอาบน้ำนั้น หากอยู่ในช่วงของการรีโนเวทบ้านหรือคิดปรับปรุงห้องน้ำทั้งห้อง สามารถทำได้ง่ายกว่าการมาทำต่างหาก และจะได้ถือโอกาสในการทำระบบกันซึมพื้นห้องน้ำใหม่ทั้งหมดพร้อมกันเสียทีเดียว จะได้ไม่ต้องยุ่งยากในการต้องมาทำเองภายหลัง รวมทั้งเราจะได้ห้องน้ำที่มั่นใจและใช้งานได้อีกยาวนานพร้อมกับการได้พื้นที่ห้องน้ำเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตกแต่งห้องน้ำ
แน่นอนว่าการทุบอ่างน้ำเพื่อทำห้องน้ำใหม่นั้น ทำให้คุณต้องปูพื้นห้องน้ำใหม่ เราเลยอยากแนะนำ วิธีเลือกกระเบื้องสำหรับปูห้องน้ำตามความหนาของกระเบื้อง และ 5 ไอเดียการเลือกแบบกระเบื้องห้องน้ำสวย ๆ มาฝากกัน
วิธีเลือกกระเบื้องสำหรับปูห้องน้ำตามความหนาของกระเบื้อง
วิธีการตรวจสอบว่าเป็นกระเบื้องแบบใดสามารถทำได้โดยการดูความหนาของกระเบื้อง โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กระเบื้องแผ่นบาง และ กระเบื้องแผ่นหนา โดยวิธีการเลือกกระเบื้องมีดังนี้
กระเบื้องแผ่นบาง
กระเบื้องปกติมักมีการเคลือบสี, ลวดลาย หรือร่องลายที่บริเวณผิวด้านหน้าเพื่อความสวยงามและเห็นลวดลายชัดขึ้น แต่กระเบื้องที่กว้างประมาณ 6 มิลลิเมตรจะไม่มีการเคลือบเหลือง และสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท
- กระเบื้องกรุงผนัง : กระเบื้อง Earthen Ware เป็นกระเบื้องที่เนื้อละเอียดและดูดซึมน้ำสูง มักมีสีขาวหรือสีแดง แต่ไม่เหมาะสำหรับการใช้เป็นกระเบื้องปูพื้นหรือติดตั้งภายนอกอาคาร เนื่องจากมีความแข็งแกร่งและรับน้ำหนักได้น้อยกว่ากระเบื้องประเภทอื่น แต่สามารถใช้ปูผนังได้
- กระเบื้องปูพื้น : กระเบื้อง Stone Ware เป็นกระเบื้องที่แข็งแกร่งและทึบแสง มีสีน้ำตาลหรือขาว มีเคลือบที่ผิวหน้าแบบด้าน แบบมัน และแบบผิวสัมผัสหยาบ มีความแกร่งมากกว่ากระเบื้องผนังและรับน้ำหนักได้ดี ใช้ได้ทั้งงานพื้นและผนัง
กระเบื้องแผ่นหนา
เนื้อกระเบื้องประมาณ 10 มิลลิเมตร แบบพอร์ซเลนมีความแกร่งสูง ทนต่อการขัดสีได้ดี แต่ราคาอาจจะสูงกว่ากระเบื้องแผ่นบาง นิยมนำไปใช้เป็นกระเบื้องปูพื้นหรือใช้ภายนอกอาคาร
- กระเบื้องแผ่นหน้าแบบเคลือบผิวหน้า : Glazed Porcelain Tile มีข้อเสียคือหากถูกกระเทาะหรือสึกกร่อนจนถึงเนื้อกระเบื้อง จะเห็นว่าเป็นคนละสีกัน จึงต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ
- กระเบื้องแผ่นหนาแบบเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น : กระเบื้องแกรนิตโตเป็นกระเบื้องพิเศษที่สามารถทำผิวสัมผัสได้หลากหลาย และไม่ค่อยแตกต่างกันมากเมื่อถูกกระเทาะหรือเกิดการสึกกร่อน จึงเหมาะที่จะนำไปใช้ทำเป็นเคาน์เตอร์ในห้องครัวหรือห้องน้ำ
5 ไอเดียการเลือกแบบกระเบื้องห้องน้ำสวย ๆ
การเลือกแบบกระเบื้องห้องน้ำเป็นสิ่งสำคัญในการตกแต่งบ้าน เพราะห้องน้ำเป็นห้องที่มีพื้นที่แคบ แต่การเลือกลายกระเบื้องที่เหมาะสมจะทำให้ห้องน้ำสวยงาม และช่วยเพิ่มความกว้างขวางให้กับห้องน้ำ
- การตกแต่งห้องน้ำควรเลือกใช้สีหลักเป็นสีพื้นเช่นขาวหรือครีม และเพิ่มเติมสีสันลูกเล่นเพียง 3-4 สีเท่านั้น เช่น สีส้ม น้ำเงิน สีเขียวคราม ฟ้าคราม โดยควรเลือกใช้สีในทิศทางโทนเดียวกัน เพื่อไม่ทำให้ห้องน้ำดูซับซ้อนหรือไม่สบายตา
- เลือกกระเบื้องห้องน้ำแบบพิมพ์ลายที่เป็นลักษณะลายเส้นสายเชื่อมต่อกันแบบแผ่นต่อแผ่นเป็นลายที่เหมาะสำหรับตอบสนองความต้องการของเจ้าของบ้าน แต่ควรปูเพียงบางจุดเท่านั้น เพื่อไม่ให้รู้สึกลายตาเวลาใช้ห้องน้ำ
- ควรเลือกใช้กระเบื้องห้องน้ำสีเข้มที่มีลักษณะเป็นปุ่มเล็กๆ เพื่อตกแต่งห้องน้ำให้ดูไม่เก่าหรือใหม่เกินไป และทำให้ดูผ่อนคลายโดยไม่ต้องใช้สีอ่อนเข้ามาผสม กระเบื้องเซรามิกที่มีลักษณะนี้ยังสามารถปูได้ทั้งพื้นและผนัง เพราะกันลื่นได้ดีกว่ากระเบื้องห้องน้ำทั่วไป
- การใช้กระเบื้องเซรามิกลายสี่เหลี่ยมจตุรัสในห้องน้ำเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากวัสดุและลวดลายง่ายต่อการหาซื้อและมีราคาไม่แพง แต่ควรเลือกใช้โทนสีเข้มไม่เหมือนกันในแต่ละส่วน เพื่อป้องกันการสกปรก และควรใช้โทนสีเข้มที่แตกต่างกันไม่เกิน 2 สี เพื่อให้ห้องน้ำดูมีมิติและไม่ดูมืดมน
- การใช้กระเบื้องหินอ่อนแบบ Marble Stone ในห้องน้ำเป็นที่นิยม เนื่องจากมีความสวยงามและหรูหรา แต่ต้องมีงบประมาณสูง และควรเลือกโทนสีขาวเพื่อให้ห้องน้ำดูสว่าง นอกจากนี้ ยังต้องดูแลรักษาอย่างถูกวิธีเนื่องจากกระเบื้องหินอ่อนมีความละเอียดสูงและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
การรีโนเวทห้องน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการปรับปรุงบ้าน เพราะห้องน้ำเป็นห้องที่ใช้บ่อยและมีความสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมและคุณภาพดีเป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากนั้น ยังต้องมีการออกแบบห้องน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานและสะดวกสบาย การเพิ่มระบบการถ่ายเทเสียที่ดีและปลอดภัยเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างดี เพื่อให้ได้ห้องน้ำที่สมบูรณ์แบบและทันสมัย
โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon