บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ September 21, 2023

วิธีออกแบบบ้าน ยุคใหม่อย่างไร ไม่ตกเทรนด์

วิธีออกแบบบ้าน ไม่ให้ตกเทรนด์นั้นเป็นเรื่องยาก เพราะเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนแปลงไปการดีไซน์บ้านก็ปรับเปลี่ยนไปตามวิถีชีวิต สภาพแวดล้อม และสังคม ถ้าเรามองย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนจะเห็นได้ว่ามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบออกไปทั้งการออกแบบภายนอก การปรับผังบ้าน รวมทั้งการตกแต่งภายในบ้านเพื่อจะได้สนองต่อความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งแบบแปลนบ้านที่น่าสนใจอาจจะได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ ฉะนั้น ถ้าเราอยากสร้างบ้านสวยๆ ลองมาดูแนวทางในการสร้างบ้านเทรนด์ใหม่กันดีกว่า


1. Open Plan

Open Plan

สมัยก่อนคนจะนิยมสร้างบ้านที่เป็นบล็อกๆ มีการแบ่งแยกห้องต่างๆ ให้เป็นสัดส่วน แต่ในปัจจุบันการจัดแปลนจะเน้นไปที่การเปิดโล่งเพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่ง Open plan หมายถึง การออกแบบห้องโดยไม่มีผนังกั้นระหว่างกัน โดยจะมีพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องครัว และห้องอาหาร เป้าหมายหลักของการออกแบบ Open Plan คือการสร้างความเป็นกันเอง และลดความอึดอัดในห้องพัก โดยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและการเชื่อมต่อกันของพื้นที่ในบ้าน โดยอาจจะตกแต่งด้วยการนำเฟอร์นิเจอร์เข้ามาช่วยแบ่งสัดส่วนแทน ซึ่งจะช่วยให้บ้านดูโปร่ง กว้าง ไม่ร้อน ประหยัดต้นทุนในการก่อสร้าง เพราะไม่จำเป็นต้องกั้นผนังมากมาย

การออกแบบบ้านนี้มีข้อดีหลายอย่าง ทั้งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว และช่วยเพิ่มความสวยงามของบ้าน นอกจากนี้ ยังช่วยให้การจัดเก็บของในบ้านง่ายขึ้น และเพิ่มการไหลเวียนของอากาศในบ้าน ทำให้บ้านมีความเย็นสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในอนาคตถ้าต้องการปรับเปลี่ยนก็สามารถทำได้ง่าย และยังมีผลทางอ้อมคือทำให้ครอบครัวได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกันได้มากขึ้น


2. ประตูและหน้าต่างกว้าง

ประตูและหน้าต่างกว้าง

มียุคสมัยหนึ่งที่บ้านส่วนใหญ่มักจะสร้างให้ประตูเข้าบ้านเล็กๆ แบบประตูไม้แผ่นเดียว แต่ในปัจจุบันความนิยมเรื่องประตูแคบๆ ก็เริ่มหมดไป โดยหันมาใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนแทน ซึ่งจะมีความกว้างที่คล้ายกับประตูบานเฟี้ยมแต่ต้นทุนจะถูกกว่ากันและสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น

ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการออกแบบให้ประตูและหน้าต่างกว้างขึ้นคือ แสงธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีแสงแดดจำกัด เนื่องจากสามารถช่วยเพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่และทำให้รู้สึกอบอุ่นมากขึ้น นอกจากนี้ แสงธรรมชาติยังแสดงให้เห็นว่ามีผลดีมากมายต่ออารมณ์และความเป็นอยู่ของเรา ข้อดีอีกประการหนึ่งคือช่วยให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในสภาพอากาศที่ร้อนและชื้น ซึ่งการไหลเวียนของอากาศที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้บ้านเย็นสบาย ช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องปรับอากาศและระบบทำความเย็นอื่นๆ ซึ่งช่วยประหยัดเงินค่าพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หากใช้เป็นประตูกระจกจะยิ่งทำให้บ้านดูสว่างและสวยงามขึ้น หลายๆ บ้านจะนิยมทำประตูลักษณะที่ว่าประตูจากโรงจอดรถเป็นประตูไม้ ส่วนโซนระเบียงบ้านจะใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อจะได้เหมาะกับการใช้งานของคนในครอบครัว


3. ดีไซน์ผนัง

ดีไซน์ผนัง

ออกแบบบ้านโดยดีไซน์ผนังให้แตกต่างก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่สามารถเพิ่มความสวยงามและเปลี่ยนแปลงลักษณะของบ้านได้อย่างง่ายดาย เพราะบางครั้งการทาสีบนผนังแบบทั่วไปก็จะดูธรรมดาเกินไป ในการสร้างบ้านยุคใหม่จึงได้มีการประยุกต์วัสดุต่างๆ นำมาแต่งเติมให้ลวดลายของผนังบ้านดูน่าสนใจมากขึ้น อาทิเช่น ผนังบ้านขัดมันสไตล์ลอฟท์, ผนังปูนประดับไม้, ผนังปูนผสมสีที่คล้ายกับบ้านดิน หรืออาจจะเป็นการใช้วัสดุชนิดอื่นเข้ามาตกแต่งด้วย อย่างเช่น กระเบื้องหิน อิฐ ประดับตกแต่งไว้ที่ด้านหน้าของตัวบ้านให้ดูงดงามหรือคล้ายแบบบ้านของต่างประเทศ

ถึงแม้ว่าการตกแต่งผนังบ้านเพิ่มขึ้นอาจจะทำให้ต้นทุนในการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่แลกกับบ้านที่สวยงามและโดดเด่นขึ้นก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่เหมือนกัน ดีไซน์ผนังหรือการตกแต่งผนังบ้านด้วยวัสดุต่าง ๆ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความสวยงามและความโดดเด่นให้กับบ้านของตนเอง


4. ผสมผสานเก่ากับใหม่

ผสมผสานเก่ากับใหม่

ไอเดียการสร้างบ้านแนวใหม่จะเป็นการผสมผสาน Mix & Match ดีไซน์บ้านในสไตล์ต่างๆ ให้เข้ากับวิถีชีวิตมากขึ้น เช่น แนววินเทจ, คอทเทจ, คันทรี่ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีความสวยงามเฉพาะของตนเองเมื่อนำมารวมกับความเป็นโมเดิร์นร่วมสมัยจะช่วยสามารถตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยได้มากยิ่งขึ้น การวางแผนที่เหมาะสมสามารถช่วยประหยัดพื้นที่ในบ้าน และทำให้บ้านเรามีความสะดวกสบายมากขึ้น

รวมถึงการออกแบบบ้านควรคำนึงถึงความสมดุลด้วย เพื่อให้บ้านมีความเป็นศิลป์และน่าอยู่ ในการผสมผสานสไตล์เก่าและใหม่ การเลือกใช้วัสดุและภายในบ้านเพื่อให้เหมาะสมกับทั้งสไตล์ ประกอบกับปัจจุบันมีศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตออกมาเพื่อรองรับการสร้างบ้านที่หลากสไตล์มากขึ้นจะแตกต่างกับสมัยก่อนที่ต้องนำเข้าเฟอร์นิเจอร์แบบแปลกๆ มาจากต่างประเทศเท่านั้น


5. เข้าถึงสวนข้างบ้านได้ง่าย

เข้าถึงสวนข้างบ้านได้ง่าย

การออกแบบบ้านควรให้สามารถเข้าถึงสวนข้างบ้านได้อย่างง่ายดาย โดยการวางแผนที่บ้านและสวนให้เข้ากันได้อย่างลงตัวเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด เพิ่มพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ให้มากขึ้นเพื่อสร้างความร่มรื่นและความเย็นสบายในบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มพื้นที่แสงสว่างในบ้านโดยการใช้วัสดุและสีที่เหมาะสม เช่น การใช้กระจกเพื่อสะท้อนแสง หรือการใช้สีสว่างเพื่อสร้างความเป็นสดใสในบ้าน

หากเป็นบ้านยุคสมัยก่อนการสร้างบ้านมักทำผนังข้างบ้านเป็นลักษณะปิดทึบ มีเพียงหน้าต่าง 2 บานเท่านั้น แต่ปัจจุบันการสร้างบ้านเน้นให้เข้าถึงธรรมชาติได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะบ้านเดียวที่นิยมจัดตกแต่งสวนข้างบ้านจะต่อเติมเป็นระเบียงเล็กๆ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจของคนในครอบครัว จึงนิยมติดเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่ด้านข้างของตัวบ้าน สิ่งที่สำคัญในการออกแบบคือการคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวในบ้านและการเชื่อมต่อกับภายนอก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินอ้อมจากทางด้านหน้าบ้านมาชมสวนนั่นเอง


6. วัสดุป้องกันความร้อน

วัสดุป้องกันความร้อน

ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประเทศเราเข้าสู่ภาวะโลกร้อนมากยิ่งขึ้น หลายบ้านจึงเลือกที่จะพึ่งพาเครื่องปรับอากาศซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะค่าไฟ แต่ถ้าเรามีการปรับแปลนการสร้างบ้านให้มีความสมดุลกับธรรมชาติ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุป้องกันความร้อนในการออกแบบบ้าน เพราะมันช่วยรักษาอุณหภูมิภายในบ้านและปรับสภาพอากาศในบ้านให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่ตั้งของบ้าน ซึ่งก็เป็นทางเลือกให้กับการสร้างบ้านได้อีกทางหนึ่ง กล่าวคือการออกแบบบ้านควรเริ่มต้นด้วยการคำนวณทิศทางที่เหมาะสมก็จะช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้น และยังช่วยประหยัดพลังงานในการใช้เครื่องปรับอากาศในบ้านได้ด้วย


7. Green Home

Green Home

การออกแบบบ้าน Green Home ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากผู้คนมีความตั้งใจที่จะลดการใช้พลังงานและการปล่อยสารเคมีในอากาศ และยังมีรายงานวิจัยที่ว่า ถ้าเรารู้สึกเครียดหรือเมื่อยล้าให้ลองหันไปมองอะไรที่เป็นสีเขียว เช่น ต้นไม้ ดอกไม้ก็จะสามารถให้เราผ่อนคลายได้ เช่นเดียวกันการจัดสวน ปลูกต้นไม้ภายในบ้านก็จะช่วยให้บ้านน่าอยู่แถมยังเย็นสบายมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะในยุคนี้ที่คนจะให้ความสำคัญกับการตกแต่งสวนในบ้านไม่ว่าจะเป็นสวนหินหรือถ้าใครมีพื้นที่มากหน่อยก็จะทำเป็นสวนแบบมีน้ำตกจะช่วยเพิ่มพลังงานฮวงจุ้ยให้กับบ้าน ส่งผลให้คนในบ้านมีสุขภาพแข็งแรง แต่ถ้าบ้านใครสร้างออกมาแล้วเหลือเนื้อที่ไม่เพียงพอกับการจัดสวน ก็ไม่ต้องเสียใจไปเพราะถึงเราจะปลูกต้นไม้ยืนต้นไม่ได้ การใช้วัสดุสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมและน่าใช้จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการออกแบบบ้านเหล่านี้ เราสามารถดัดแปลงเป็นไม้กระถางเล็กๆ เรียงกันเป็นสวนแทนก็ได้ความสวยเก๋ไปอีกแบบ


การสร้างบ้านเทรนด์ใหม่นี้ เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ต้องการมีบ้านที่สวยงามและทันสมัย จึงมักออกแบบและสร้างบ้านให้มีความสะดวกสบายต่อการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานภายในหรือภายนอกบ้าน นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและคุณภาพของบ้านที่เราสร้างขึ้น เพราะในชีวิตคนหนึ่งคน การจะมีบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อมีโอกาสได้สร้างบ้านในฝันของตัวเองก็ต้องทำให้ดีที่สุดและตรงใจเรามากที่สุดเพื่อคนในครอบครัวของเรา ดังนั้น ควรเลือกออกแบบบ้านในสไตล์ที่ชอบและเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีเพื่อให้บ้านที่สร้างขึ้นมีความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายในบ้านที่เราสร้างขึ้นมาอย่างแท้จริง


เทรนด์การออกแบบบ้าน และเคล็ด (ไม่ลับ) เขียนแบบบ้านยังไงให้อยู่สบาย

ในปัจจุบัน เทรนด์การออกแบบบ้านเองได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้คน แต่อันดับแรกที่ต้องทำคือการวางแผนให้ดีเสียก่อน เริ่มต้นด้วยการวางแผนการใช้งบประมาณ และวางแผนการออกแบบในลักษณะที่ต้องการ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและออกแบบ และช่วยให้บ้านมีความสวยงามและสบายตามต้องการ แล้วค่อยกำหนดพื้นที่ที่จะใช้แต่ละส่วนของบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำ จะช่วยให้การใช้พื้นที่มีประสิทธิภาพและไม่เสียพื้นที่โดยไม่จำเป็น

นอกจากนี้ การเลือกวัสดุก่อสร้างก็เป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย เลือกวัสดุที่มีคุณภาพและตรงตามงบประมาณ เพื่อให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ตามแผนการออกแบบ และใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ รวมถึงเทรนด์การออกแบบบ้านให้อยู่สบายนั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเช่น และหลายคนอาจจะต้องการศึกษาเกี่ยวกับเทรนด์ต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อนำไปปรับใช้ในการออกแบบบ้านของตนเอง เรามาดูกันว่า เทรนด์การออกแบบบ้านในอนาคตมีแนวโน้มไปในทิศทางไหน และการออกแบบบ้านให้อยู่สบายนั้นต้องทำยังไงบ้าง


7 เทรนด์การออกแบบและสร้างบ้านให้น่าอยู่ในอนาคต

การออกแบบบ้านให้น่าอยู่นั้นไม่ยาก สิ่งสำคัญคือ การออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับความต้องการและสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ จึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาในการสร้างบ้านในอนาคต มาดูกันว่า 7 เทรนด์บ้านในอนาคต จะมีแนวโน้มอย่างไรบ้าง

1. บ้านประหยัดพลังงาน
บ้านแบบนี้ถูกออกแบบโดยเน้นความ “โปร่ง โล่ง สบาย” เพื่อรับลมและความเย็นจากธรรมชาติ และใช้เทคโนโลยีเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อเก็บพลังงานทดแทนนำมาใช้เป็นกระแสไฟหมุนเวียนใช้ในบ้านได้

2. บ้านพื้นที่เล็กแต่ประโยชน์ใช้สอยเพียบ
จากผลสำรวจพบว่าหลายคนต้องการบ้านขนาดเล็กแต่สามารถตอบสนองทุกความต้องการได้ โดยอาจออกแบบบ้านด้วยการลดขนาดห้องบางห้องที่ใช้ประโยชน์น้อยที่สุดลง หรือรวมห้องบางห้องเข้าด้วยกันแล้วมาใช้งานในลักษณะแบบมัลติฟังก์ชั่น และยังพบว่าห้องที่คิดว่าควรตัดออกคือห้องทานอาหาร หรือห้องนั่งเล่นที่เป็นทางการออก แล้วเปลี่ยนเป็นห้องที่สามารถใช้งานได้หลากหลายของสมาชิกภายในบ้าน

3. บ้านอัจฉริยะ
ในอนาคตการสร้างบ้านแบบรุ่นใหม่จะต้องออกแบบโดยคำนึงถึงการรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การควบคุมระบบไฟฟ้าจากมือถือ หรือการสั่งงานด้วยเสียง เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัยในบ้านที่สร้างใหม่

4. บ้านสำหรับผู้สูงอายุ
การออกแบบบ้านในปัจจุบัน อาจต้องคำนึงถึงผู้สูงอายุในครอบครัว ดังนั้น ต้องออกแบบบ้านให้เหมาะสมและสะดวกสบายต่อผู้สูงอายุร่วมด้วย

5. บ้านหลายหลังในพื้นที่เดียวกัน
คาดว่าในอนาคตราคาที่ดินจะขึ้นสูงขึ้น ผู้คนจึงมักซื้อที่ดินผืนใหญ่เพื่อสร้างบ้านอาศัยและใช้พื้นที่ว่างเหลือเป็นส่วนรวม เช่น ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ และสวนของบ้าน ซึ่งเรียกว่า “Multi Family”

6. บ้านอิงธรรมชาติ
การกลับคืนสู่ธรรมชาติเป็นแนวโน้มที่คนเมืองต้องการมากขึ้น เพื่อความเงียบสงบและการพักผ่อนที่ใกล้ชิดธรรมชาติ โดยการสร้างบ้านแบบเปิดโล่งเพื่อรับแสงและลม และมีการแบ่งพื้นที่เพื่อทำสวนและปลูกผัก แล้วนำมาปรุงอาหารในครัวเรือน

7. บ้านตามความต้องการส่วนบุคคล
เทรนด์การสร้างบ้านในปัจจุบันเน้นการลดขนาดบ้านหรือห้องบางห้องเพื่อให้บ้านเหมาะสมกับทุกคน และเป็นที่มาของบ้านแบบ Open Plan ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านให้หลากหลายตามความต้องการส่วนบุคคลของผู้อยู่อาศัย


เคล็ด (ไม่ลับ) เขียนแบบบ้านยังไงให้อยู่สบาย

การเขียนแบบบ้านเป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบบ้านให้เหมาะสมและสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน การมีแผนบ้านที่ดีจะช่วยให้เราดูแลบ้านได้ง่าย ๆ สบาย ๆ และไม่ต้องมาคอยแก้ปัญหาต่าง ๆ ทุกวัน วันนี้เรามี เคล็ด (ไม่ลับ) จากทีมสถาปนิกในการเขียนแบบบ้าน มาฝากกัน

  • จัดสวนแบบดูแลง่าย – การจัดสวนช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่สบาย ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ ควรเลือกปลูกพันธุ์ไม้ที่ต้องการน้ำน้อย เช่น ต้นจั๋ง, พวงชมพู, เข็ม, โกสน เพื่อความสบายตา สบายใจ เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่ไม่มีเวลาในการดูแลรักษาสวนมากนัก
  • แยกโซนเปียก/แห้ง  – การแบ่งขอบเขตระหว่างพื้นที่เปียกชื้นกับพื้นแห้งเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน และการติดตั้งตู้อาบน้ำหรือฉากกั้นเพื่อช่วยป้องกันน้ำกระเซ็นออกมา จะช่วยให้การทำความสะอาดห้องน้ำง่ายขึ้นและเบาแรงกว่าเดิม
  • เลือกวัสดุที่ดูแลง่าย – การสร้างบ้านควรเลือกวัสดุตกแต่งผิวในแต่ละส่วนของบ้าน นอกจากจะคำนึงถึงความสวยงามแล้ว ต้องดูแลรักษาได้ง่าย ฉะนั้นจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่างเช่น ห้องน้ำ ห้องครัว แนะนำให้ใช้กระเบื้องเซรามิก และผนังห้องน้ำควรใช้กระเบื้องโมเสกหรือเซรามิก เพื่อความสะอาด ส่วนผนังครัวและโซฟาแนะนำให้ใช้วัสดุหนังแท้ เป็นต้น
  • ใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า – หากพื้นที่ใช้สอยในบ้านมีพื้นที่ไม่มากนัก ออกแบบให้ทุกห้องสามารถจัดเก็บของได้ในแนวตั้ง โดยใช้วิธี Built-in, ชั้นวางติดผนัง หรือตู้ลอยติดผนัง เพื่อเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบและประหยัดพื้นที่ใช้สอย
  • วางตำแหน่งปลั๊กให้เพียงพอ – การออกแบบตำแหน่งปลั๊กไฟในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน การออกแบบไม่ดีอาจทำให้ต้องลากสายปลั๊กพ่วงทำให้ดูรกสายตาและเกิดอันตราย และบ้านหลายหลังมักลืมติดตั้งปลั๊กไฟให้เพียงพอในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น ห้องน้ำ, โรงจอดรถ, หัวเตียง, บริเวณสนามรอบบ้าน เป็นต้น
  • ผนังบ้านต้องเรียบร้อย – เครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ที่มักติดตั้งในบ้านเพื่อช่วยลดความร้อน แต่บ้านบางหลังอาจไม่ได้เตรียมพื้นที่ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ตั้งแต่ตอนก่อสร้าง ทำให้ช่างติดตั้งต้องวิธีการแขวนคอมเพรสเซอร์ไว้ที่ผนัง ทำให้บ้านดูไม่สวยงาม ดังนั้น ควรออกแบบเผื่อไว้ด้วย
  • ขจัดซอกหลืบ – การมีซอกหลืบตามมุมบ้านทำให้บ้านดูรก ไม่สะอาดตา และยากในการดูแลรักษา การออกแบบให้บ้านมีซอกหลืบน้อยลงจะทำให้บ้านดูสะอาดตาขึ้น ทั้งยังลดฝุ่น ลดคราบสกปรก และทำความสะอาดได้ง่าย

เห็นได้ว่า วิธีออกแบบบ้านยุคใหม่ ที่กล่าวมานั้น มีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการสร้างบ้านในอนาคตอย่างไรบ้าง โดยหลัก ๆ น่าจะมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตมากขึ้น ซึ่งทำให้คาดการณ์ได้ว่าในอนาคตบ้านใหม่ทุกหลังอาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเหล่านี้มากขึ้น รวมถึงการออกแบบและตกแต่งภายในที่จะช่วยทำให้บ้านมีความสะดวกสบายในการดูแลรักษา ใช้ประโยชน์ได้ในทุกพื้นที่ และลดภาระให้กับเจ้าของและผู้อยู่อาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เขียนโดย Con Mueangsak

โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon