บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ September 30, 2023

วิธีทาสีบ้าน 12 ข้อที่ไม่ควรละเลย

วิธีทาสีบ้าน ให้สวยอาจเป็นเรื่องที่หลายคนบอกว่าหมูๆ  ทำให้มือใหม่หลายคนพลาดความจริงและหลักการไปเยอะทำให้เกิดข้อผิดพลาดและปัญหาในภายหลัง ซึ่งการทาหรือการซ่อมแซมงานสีบ้านมีสิ่งที่ต้องระวังมากมาย ทั้งทิศทางการทา สีที่เลือก ยี่ห้อสี การเก็บรักษา และข้อระวังอีกมากมาย มือใหม่ที่พึ่งสร้างบ้านเสร็จแล้วอยากได้สีที่ถูกใจ อยากทำเอง ขอบอกเลยว่า อยากให้อ่านบทความนี้ซะก่อน!


1.สีไม่ตรงกับใจ

ปัญหากวนใจที่เพิ่งเริ่มก็เกิดความท้อซะแล้ว เมื่อสีที่ซื้อมามันไม่ตรงกับที่ต้องการ หรือไม่ก็ไม่ตรงกับข้างๆกระป๋องสี ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ? อยากให้ดูก่อนเลยว่าร้านที่เราไปเลือก ติดแสงไฟไว้หรือเปล่า ถ้าเป็นไฟหลอดธรรมดาก็ค่อยมีผลกระทบ แต่บางร้านก็ติดไฟสีต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศให้ร้าน ซึ่งแน่นอนว่าแสงพวกนั้นมีผลต่อสายตาเราแน่นอน ทำให้เวลาเราไปมองสีแล้วเอามาทา มันถึงไม่เหมือนกัน ดังนั้นทางแก้ที่ดีคือ ขอตัวอย่างสีจากร้านมาก่อน ลองเอามาทาในส่วนหนึ่งของบ้านก่อน แล้วค่อยตัดสินใจทีหลัง

สีไม่ตรงกับใจ


2.เปิดฝาถังสีทิ้งไว้

บางทีลืม บางทีก็ขี้เกียจ กับการปิดฝาถังสี ซึ่งต้องเจอแน่ๆ ไม่ว่าเราจะทาสีเอง หรือจ้างคนอื่นมาทา ควรตรวจเช็คเรื่องปิดฝาถังสีให้ดี เพราะบางทีเราอาจจะไปเดินเตะ หรือมีอะไรไปทำให้ถังสีนั้นหก และแน่นอนว่าสีจะต้องเปื้อนพื้นแน่ๆ ไหนจะต้องซื้อสีใหม่มาอีก เสียทั้งเงินทั้งเวลา ยิ่งบ้านไหนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวด้วยแล้ว ต้องระวังให้มากๆ ทางแก้ที่ดี ก็คือ ปิดมันซะ!

เปิดฝาถังสีทิ้งไว้


3.ใช้ลูกกลิ้งทาผนังติดกับเพดาน

บางคนทาจนเพลินแล้วลูกกลิ้งไปดันติดกับเพดาน แน่นอนว่าสีที่ผนังจะต้องไปติดกับเพดาน ถ้าห้องนั้นใช้สีเดียวกันทั้งผนังและเพดานก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคนละสีละก็ งานเข้าแน่ๆ ทางแก้คือติดเทปกาวไว้ที่ขอบเพดาน หรือไม่ก็ ให้ช่างทาสีที่เพดานก่อน แล้วค่อยมาเก็บงานที่ผนัง ซึ่งจะง่ายกว่าและสะดวกกว่าด้วย

ใช้ลูกกลิ้งทาผนังติดกับเพดาน


4.ซ้ำสีเดิมหลายรอบ

การทาสีเดิมซ้ำมักเกิดจากมือใหม่หัดทาที่ไม่รู้เรื่องอะไร และการซ้ำสีเดิม ไม่ว่าจะทากับอะไรก็ตาม จะเป็นผนัง เพดาน หรือพวกแล็กเกอร์ ควรแน่ใจก่อนว่าสีเดิมที่ทา แห้งสนิทแล้ว อย่าไปทาทับตอนสีเดิมยังไม่แห้ง เพราะจะทำให้สีปนกันและเกิดชั้นของสี ทำให้สีไม่เรียบ และถ้าสีที่พู่กันยังไม่หมด ก็ไม่ต้องไปเติม ให้ใช้สีที่มีอยู่เดิมให้หมดให้แห้งซะก่อน

ซ้ำสีเดิมหลายรอบ


5.เก็บสีไว้ในที่เย็น

สีที่อยู่ในอุณหภูมิที่เย็นจะทำให้สีเกิดการจับตัวเป็นก้อน ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ทางที่ดีควรวางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ เพราะเมื่อไทยมีข้อได้เปรียบคือมีสภาพภูมิอากาศที่ออกไปทางร้อน เป็นผลดีกับสี ทำให้สีไม่จับตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรให้อยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนจัด เพราะจะทำให้สีเกิดการแห้ง เกิดคราบ และฟองอากาศได้

เก็บสีไว้ในที่เย็น


6.ลอกสีเคลือบเงา

ในสีที่เราซื้อมาใช้ทาสี ไม่ใช่ว่าทาแล้วจบเลย เพราะสีที่ทาจะเกิดการลอกออกมาจากชั้นเคลือบ ซึ่งถ้าเราทาสีลงไปเลย โดยไม่ลอกสีเคลือบเงาออกก่อน จะทำให้สีที่ทาไปลอกออกมาแทน เพราะมันไม่สามารถเกาะติดกันได้ วิธีลอกสีเคลือบก็คือเอากระดาษทรายขัดออก หรืออาจจะขูดสี แต่ที่แนะนำเลยก็คือใช้น้ำยาลอกสีเคลือบโดยเฉพาะ  ซึ่งจะทำให้สีอยู่ติดทนทาน ไม่ลอกออกง่ายๆ

ลอกสีเคลือบเงา


7.ไม่ควรทาสีในที่ที่มีแสงน้อย

รอยตำหนิหลายจุด ที่หลายๆบ้านเจอ ก็มาจากการที่ทาสีในช่วงเย็น หรือทาสีในขณะที่มีแสงไฟไม่พอ ทำให้การมองเห็นของเราลดลงและจะกลบจุดผิดพลาดไปได้ ทางที่ดีควรติดไฟไว้ อาจจะเป็นหลอดไฟ โคมไฟ หรือไฟฉายก็ได้ บางบ้านอาจจะเปิดหน้าต่างแล้วให้แสงอาทิตย์เข้ามาช่วย นั่นก็จะทำให้งานของเราสมบูรณ์แบบมากขึ้นนั่นเอง

ไม่ควรทาสีในที่ที่มีแสงน้อย


8.สีไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อม

เลือกสีผิด ชีวิตเปลี่ยน เลือกที่ผิด ชีวิตก็เปลี่ยนเหมือนกัน เพราะนอกจากการเลือกสีที่ต้องดูให้ดีแล้ว การเลือกจุดที่ทาก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเราทาใช้สีเคลือบ ในพื้นผิวขรุขระ แน่นอนว่าจะทำให้บ้านเราดูไม่น่าอยู่ไปเลย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือทำให้เราเห็นรอยตำหนิที่เราอาจไม่เห็น หรือบางคนทาสีเคลือบทับกันไปมา ผลที่เกิดคือสีจะผิดเพี้ยนไปจากเดิมมากๆ

สีไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อม


9.ทาสีไม้โดยไม่ผสมทินเนอร์

บ้านไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือสิ่งที่ทำจากไม้ ถ้าเราอยากเคลือบสีให้ไม้ที่ต้องการ อย่าลืมผสมทินเนอร์ทุกครั้ง เพราะสีเคลือบที่ทาจะมีความเหนียวหนืดสูง ทินเนอร์จะเป็นตัวผสมและทำให้สีทาง่ายขึ้น ไวขึ้น และไม่เปลืองสีด้วย

ทาสีไม้โดยไม่ผสมทินเนอร์


10.ใช้สีกันคราบและความชื้น

ไม้คือวัสดุที่ทายากและมีการดูแลรักษาที่ยุ่งวุ่นวาย ถ้าเราศึกษาให้ดีจะพบว่า ไม้สามารถรับความชื้นได้ตลอด และหลายๆบ้านก็เคยเจอปัญหาไม้ดูดความชื้นจนสีเพี้ยน เกิดรอยคราบจุดด่างดำ จนต้องแก้ปัญหาด้วยการทาสีใหม่ทับ ดังนั้นถ้าใครมีวัสดุไม้ ก็อยากให้ทาสีกันความชื้นไว้ก่อน แล้วค่อยทารองพื้น จะได้ไม่มีปัญหา

ใช้สีกันคราบและความชื้น


11.ติดเทปตามขอบประตูและหน้าต่าง

ขอบประตูและหน้าต่างถือเป็นจุดบอดที่ละเลยกันมานักต่อนัก เพราะบางทีเราทาผนังและสีไปโดนขอบหน้าต่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไม้ และเมื่อทาไปก็แก้ไขยากซะด้วย ดังนั้นการติดเทปกาวไว้ก็ถือเป็นทางป้องกันที่ดีมากๆ

ติดเทปตามขอบประตูและหน้าต่าง


12.จุ่มสีมิดด้ามแปรง

มือใหม่ทุกคนต้องเคยจุ่มสีมิดด้าม แล้วเอามาทา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ สีเลอะ สีกระเด็นโดนพื้น โดนเสื้อ สีไม่เท่ากัน เพราะสีได้ถูกดูดไปอยู่ข้างในแปรงด้วย ดังนั้นควรจุ่มแค่ปลายถึงกลางๆ แปรงก็พอ จะได้ไม่เปลืองสีและไม่ต้องเสียเวลาแก้สีด้วย

จุ่มสีมิดด้ามแปรง


เทคนิคการทาสีบ้านด้วยตัวเองง่ายๆ

การทาสีบ้านเองอาจเป็นเรื่องยากและเสียเวลา แต่ถ้ามีเคล็ดลับที่ดี งานก็จะสนุกและง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการทาสีเปรอะเปื้อนและเสียเวลาในการทำความสะอาดสีได้อีกด้วย นอกจากการทาสีให้สนุกและได้ผลดีแล้ว ยังมีเคล็ดลับเล็กๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นเหม็นของสี คือ ใส่กลิ่นวนิลลาลงไปในสีเล็กน้อย จะช่วยกำจัดกลิ่นเหล่านี้ได้ และไม่ต้องกัดกลิ่นเหม็นอีกต่อไป รวมถึงการทาสีบ้านก็ยังมีเคล็ดลับและวิธีการทาที่ช่วยลดเวลาและทำให้สีติดและดูสวยได้ง่ายขึ้นอีกด้วยซึ่งเทคนิคการทาสีบ้านว่าจะเป็นการทาสีตามซอกเล็กๆ หรือการเลือกใช้แปรงทาสี หากต้องการหาด้วยตัวเองต้องเลือกแปรงทาสีแบบไหนและสีแบบไหนจึงจะเหมาะกับบ้านมากที่สุด สามารถดูได้จากตารางนี้เลย

  • ปัญหาสีไหล : การใช้แปรงทาสีบ้านบนผนังสูงมักเจอปัญหาสีไหลลงมาจากแขน แต่การใช้ฝาพลาสติกเท่านั้นจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ โดยเจาะฝาพลาสติกให้พอดีกับขนาดแปรงแล้วสวมเข้าไปเป็นหมวกกั้นสีได้เลย
  • สีย้อยออกจากกระป๋อง : วิธีแก้ไขการปาดสีเข้าไปที่บริเวณขอบกระป๋องที่ทาสีไม่สวยของสีย้อยคือใช้ลวดไม้แขวนเสื้อตัดดัดให้พอดีกับปากกระป๋อง เพื่อให้สามารถปาดสีได้ง่ายๆโดยไม่ต้องเสียเวลาเช็ดล้างที่พื้นอีก
  • ปล่อยให้สีโดนอากาศ : เมื่อทาสีบ้านแล้วเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ควรปล่อยให้สีโดนอากาศหรือลม เพราะจะทำให้สีแห้งติด แนะนำให้นำแปรงใส่ถุงพลาสติกแล้วมัดปากถุงให้แน่นเพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว
  • ทาสีตรงบริเวณประตู : การทาสีบริเวณประตูบานพับอาจทำให้สีตกอยู่บนบานพับตลอดเวลา แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้เทปหนังไก่และคัตเตอร์กรีดส่วนเกินออกก่อนที่จะทาสีบริเวณนั้น
  • ทาขอบแล้วเลอะเทอะ : เทคนิคการทาสีสำหรับนักทาสีมือใหม่ คือการใช้เทปกาวหนังไก่แปะบริเวณรอยต่อขอบที่ไม่ต้องการให้โดนสี และดึงออกเมื่อสีแห้งสนิท ถ้าดึงออกยากใช้คัตเตอร์หรือไดร์เป่าผมช่วยก็ได้ เพราะความร้อนจะช่วยให้กาวคลายตัวทำให้ดึงออกง่ายขึ้น

4 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับการทาสีบ้าน

การทาสีบ้านต้องมีเทคนิคในการทาสีให้เรียบเนียนและมีอายุการใช้งานได้ในระยะยาว ควรหาข้อมูลให้ดีเสียก่อนและไม่ควรวางใจช่างทาสีได้ทั้งหมด เพราะอาจต้องมาเสียเวลาแก้ไขและเสียเงินเริ่มต้นทำใหม่ สำหรับการทาสีบ้านมีข้อควรรู้ที่ควรจำไว้ สิ่งสำหรับการทาสีบ้านตัดสินใจทาสีห้องหรือบ้านใหม่ ซึ่งจะช่วยให้คุณได้บ้านที่สวยงดงามและสมดั่งใจตามความต้องการของคุณและ 1 รายละเอียดสำคัญสำหรับการเลือกใช้สีทาบ้านควรเลือกใช้สีที่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านหรือควรเลือกใช้สีที่มีความรู้ทางสูงสุด นอกจากนี้สีบางชนิดยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันแมลงหากคุณเลือกใช้สีที่ตรงกับบ้านรับรองว่าสีที่ทาจะอยู่กับบ้านของคุณไปอีกนานอย่างแน่นอน

1. การเลือกจ้างช่างทาสี

หากไม่มั่นใจในฝีมือตัวเอง ควรหาข้อมูลจากผู้ใช้บริการช่างทาสีที่เคยใช้บริการและดูผลงานที่ผ่านมาของช่าง และเรียกช่างมาดูสถานที่และตีราคาค่าทาสีและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดที่ต้องการจะทา ควรเรียกช่างมาอย่างน้อย 2-3 รายเพื่อเปรียบเทียบราคาและผลงานให้เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด

2. ตั้งงบประมาณจากขนาดของพื้นที่

การควบคุมงบประมาณเพื่อป้องกันการบานปลายของงบประมาณ ควรรู้ขนาดพื้นที่ที่ต้องการทาสี แล้วนำมาคำนวณขนาดตารางเมตร เพื่อหาปริมาณสีที่ต้องใช้ โดยสีประมาณ 1 แกลลอนสามารถทาสีได้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร และต้องเผื่อปริมาณสีที่ต้องทาซ้ำหลายๆรอบไว้ด้วย เพราะอาจต้องใช้สีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังต้องใช้สีรองพื้นก่อนจึงจะทาสีจริงได้

3.เลือกสีของบ้านให้ตรงกับความต้องการ

การเลือกสีในการตกแต่งบ้านควรเหมาะสมกับการใช้งานและสามารถใช้งานได้นานโดยไม่น่าเบื่อ เช่น ใช้โทนสีออกสว่างในห้องอ่านหนังสือ, โทนสีอบอุ่นในห้องนั่งเล่น, โทนสีที่ผ่อนคลายในห้องนอน, และสีที่สบายตาในห้องนอนเด็ก นอกจากนี้ยังควรพิจารณาองค์ประกอบของเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งภายในห้องด้วย เพื่อให้ได้ทิศทางเดียวกัน

4. เลือกใช้สีที่มีคุณภาพ

การเลือกใช้สีทาบ้านควรใช้สีคุณภาพดีและมีสารเคมีที่ปลอดภัย เช่นสีที่เขียนว่า Low-VOC หรือ Non-VOC เพื่อป้องกันการเสียเวลาแก้ไขในภายหลังและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ ควรอ่านฉลากสีทาให้ดีก่อนการเลือกซื้อเพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว


การทาสีบ้านต้องระวังและปฏิบัติตามหลักการที่ถูกต้อง เช่น สำรวจทิศทางการทา การเลือกสีที่เหมาะสม การเลือกยี่ห้อสีที่มีคุณภาพ การเก็บรักษา และการทำความสะอาดสี นอกจากนี้ควรหาข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทาสีบ้าน เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดและปัญหาในภายหลังได้ การทาสีบ้านเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและความสามารถในการปฏิบัติตามหลักการที่ถูกต้อง ดังนั้น ควรระวังการเก็บกวาด ล้าง และทำความสะอาดสีให้เรียบร้อย สำหรับการทาสีบ้านหากเลือกใช้สีได้ถูกชนิดหรือเหมาะกับตัวบ้านสีก็จะติดทนกับบ้านไปอีกยาวนาน

เขียนโดย Con Mueangsak

โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save