บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ June 26, 2023
วัสดุก่อสร้างบ้าน ควรเลือกซื้อตอนไหน คงเป็นคำถามที่คนสร้างบ้านมือใหม่ตั้งคำถาม เพราะเมื่อเริ่มที่จะวางแผนก่อสร้างบ้านแล้วมีหลายอย่างที่เจ้าของบ้านจะต้องดำเนินการคิดและตัดสินใจ ซึ่งแต่ละขั้นตอนล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ โดยเฉพาะการเลือกวัสดุก่อสร้าง และวัสดุสำหรับใช้ตกแต่งภายในอันเป็นองค์ประกอบที่ส่งผลอย่างมากต่อรูปร่างหน้าตาของบ้านทั้งภายนอกและภายในว่าจะออกมาดีหรือออกมาเละเทะ ทั้งนี้ วัสดุก่อสร้างแต่ละประเภทก็จะมีเทคนิคการติดตั้งหรือรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะทำให้มีผลต่อการวางแผนงานก่อสร้างในแต่ละขั้นตอนอีกด้วยเช่นกัน ดังนั้น ถ้าหากอยากได้บ้านสวยตามที่ฝันเอาไว้ ตัวเจ้าของบ้านและสถาปนิกจึงเป็นผู้มีบทบาทต่อการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ฉะนั้น การเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าในช่วงระหว่างออกแบบ และระหว่างก่อสร้างก็จะเป็นการสมควรอย่างยิ่ง ในบทความนี้เราเลยอยากให้คำแนะนำเกี่ยวกับ ขั้นตอนการเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างบ้าน ว่าควรเลือกซื้อตอนไหนถึงจะดี ? พร้อมข้อมูลเสริมที่น่าสนใจอย่าง การเลือกวัสดุอิฐมอญ VS คอนกรีต ควรเลือกวัสดุแบบไหนดี และ 6 เทคนิคเลือกวัสดุก่อสร้าง อย่างไรให้คงทน
ช่วงแรกที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนการออกแบบ จะถือว่าเป็นช่วงที่เจ้าของบ้านจะได้มีโอกาสพูดคุยตกลงรายละเอียดบอกความต้องการทั้งหมดกับสถาปนิก เพื่อพัฒนาแบบบ้านให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้น หลังจากนั้นสถาปนิกจะเขียนแบบเพื่อเตรียมนำไปก่อสร้างจริง ซึ่งในขั้นตอนช่วงท้ายของการออกแบบเมื่อใกล้เสร็จก็เพื่อเตรียมยื่นขออนุญาตก่อสร้างกับทางเขตที่จะก่อสร้างหรือประเมินราคาในขั้นตอนต่อๆ ไป โดยสถาปนิกจะเป็นผู้กำหนดรายการวัสดุทุกอย่าง ทุกส่วนของบ้านไม่ว่าจะเป็นภายนอกและภายในโดยจะออกเป็นเอกสารที่เรียกว่า “รายการออกแบบ” ตามวัตถุประสงค์ความต้องการของเจ้าของบ้านที่ได้ทำการพูดคุยตกลงกันไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งเอกสารฉบับนี้จะถูกใช้งานร่วมกับแบบก่อสร้างที่เสร็จสมบูรณ์ และเพื่อช่วยให้การก่อสร้างในขั้นตอนต่อไปราบรื่นขึ้นไม่ติดปัญหาใดๆ อีกทั้งการมีเอกสารชุดนี้ยังช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกรณีมีการทำผิดสัญญาจ้างระหว่างเจ้าของบ้านและผู้รับเหมาด้วย เช่น ปัญหาเปลี่ยนแปลงวัสดุระหว่างก่อสร้าง, ปัญหาการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งย่อมต้องกระทบกับขั้นตอนส่วนอื่นๆ ทำให้เสียทั้งเวลาและเสียเงิน รวมทั้งวัสดุที่สั่งมาอาจถูกทิ้งให้เสียเปล่าเพราะไม่สามารถนำมาใช้งานได้อีก
ดังนั้น การกำหนดวัสดุจึงควรที่จะตกลงกันให้แล้วเสร็จ ตั้งแต่ในขั้นตอนระหว่างการออกแบบก่อนที่จะเริ่มลงมือก่อสร้าง หรือถ้าหากว่าเจ้าของบ้านต้องการใช้วัสดุประเภทใดเป็นพิเศษ หรือหากเป็นกรณีรีโนเวทบ้านแล้วยังต้องการใช้วัสดุของเก่าที่ยังพอใช้งานได้ก็ให้แจ้งสถาปนิกไว้ตั้งแต่แรก เพราะวัสดุที่เลือกใช้แต่ละอย่างจะส่งผลโดยตรงต่อการออกแบบ เช่น ความกว้าง ความยาว ความสูง ซึ่งจำเป็นที่ต้องรู้ขนาดและรูปแบบของวัสดุที่ชัดเจน เพื่อที่จะได้เขียนลงไปในแบบสำหรับใช้ก่อสร้าง ยกตัวอย่าง การเลือกสุขภัณฑ์สำหรับใช้ในห้องน้ำ แต่ละรุ่นก็จะมีระยะของท่อ ระยะความกว้าง ความยาว และความสูงที่สถาปนิกควรที่จะต้องทราบก่อนเพื่อกำหนดใส่ไปในแบบ รวมทั้งบอกระยะสำหรับติดตั้งท่อประปา ระยะเผื่อ ระยะห่าง ระหว่างส่วนอื่นๆ จะได้สะดวกต่อการใช้งาน เวลาที่ช่างเข้ามาติดตั้งก็สามารถอ้างอิงได้จากแบบนี้
นอกจากนั้นในวัสดุบางประเภท อย่างเช่น แผ่นหินเทียม แผ่นหินอ่อนสำหรับกรุผิวหน้าเคาน์เตอร์ บานประตูไม้ หน้าต่างกระจกสี มือจับประตูทองเหลือง พื้นลวดลายชนิดพิเศษล้วนแล้วแต่มีเทคนิคการติดตั้งที่พิเศษเฉพาะตัว วัสดุบางอย่างอาจถึงกับต้องสั่งผลิตขึ้นเป็นพิเศษซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการรอ จึงสมควรต้องคุยกันให้จบตั้งแต่ระหว่างช่วงการออกแบบก่อนที่จะเริ่มก่อสร้าง เพื่อให้ผู้รับเหมาจะได้วางแผนตามลำดับความสำคัญได้ง่ายขึ้น และสามารถเผื่อเวลาการสั่งของให้ได้ระยะเวลาอันเหมาะสม เพื่อที่จะได้ไม่กระทบกับงานส่วนอื่นที่อาจจะส่งผลให้งานก่อสร้างล่าช้า
ส่วนงานที่เป็นตกแต่งภายในก็สามารถเลือกวัสดุได้ในช่วงระหว่างก่อสร้างหรือเริ่มก่อสร้างจนแล้วเสร็จไปไปบางส่วน เนื่องจากจะไม่ค่อยมีผลกระทบกับงานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้าง งานระบบ และงานด้านสถาปัตยกรรม แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีงานที่เกี่ยวข้องกัน วัสดุบางประเภทก็คาบเกี่ยวด้านงานระบบด้วยเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลต่อขั้นตอนการทำงานและรูปแบบของงานตกแต่งภายใน เช่น การเลือกพวกดวงโคมไฟต่างๆ ที่ต้องเดินตำแหน่งสายไฟร้อยท่อหากไม่เตรียมการไว้ คงต้องมาเสียเวลาแก้ไขในภายหลัง
ทางที่ดีเจ้าของบ้าน สถาปนิก รวมทั้งมัณฑนากรผู้ออกแบบตกแต่งภายในจึงควรพูดคุยตกลงทำความเข้าใจแล้วเลือกวัสดุในช่วงที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น แต่อาจมีวัสดุบางประเภทที่เป็นส่วนสำหรับใช้กับงานปกปิดพื้นผิวที่ยังพอจะปรับเปลี่ยนได้บ้างเล็กน้อยโดยไม่กระทบต่อการก่อสร้าง จึงสามารถตัดสินใจเลือกหรือแก้ไขเพิ่มเติมได้ในภายหลังระหว่างที่กำลังก่อสร้าง อาทิเช่น การเปลี่ยนสีผนัง, การเปลี่ยนสีสัน ลวดลาย หรือผิวสัมผัสด้านหรือมันเงาของกระเบื้องที่นำมากรุผนัง
เพราะฉะนั้นการเลือกวัสดุต่างๆทั้งสำหรับงานภายนอกและภายในควรมีการทำข้อตกลงกันให้เสร็จเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบหรือก่อนที่แบบจะเสร็จออกมาสมบูรณ์ สาเหตุเป็นเพราะการกำหนดวัสดุภายในบ้านจะช่วยให้เจ้าของบ้าน สถาปนิก รวมทั้งผู้รับเหมา สามารถมองเห็นและเข้าใจภาพรวมของบ้านไปในทิศทางเดียวกันได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อการวางแผนงานก่อสร้างซึ่งจะอยู่ในขั้นตอนลำดับถัดมา การวางแผนกันไว้เสียตั้งแต่ตอนต้นนอกจากจะช่วยทำให้งานง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยลดปัญหาเทคนิคที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังได้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะ
สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างบ้าน
การเลือก วัสดุก่อสร้างบ้าน นั้นเรียกได้ว่าเป็นขั้นการสร้างบ้านลำดับแรก ๆ ที่สำคัญช่วยให้บ้านของคุณนั้นแข็งแรงยาวนานไปอีกหลายปี นอกจากทั้ง 6 เทคนิคที่เราแนะนำด้านบนแล้ว เราอยากนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ อิฐมอญ VS คอนกรีต ควรเลือกวัสดุแบบไหนดี และ 6 เทคนิคเลือกวัสดุก่อสร้าง อย่างไรให้คงทน เพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมให้กับคนที่กำลังตัดสินใจอยู่
อิฐมอญ VS คอนกรีต ควรเลือกวัสดุแบบไหนดี
เมื่อก่อสร้างบ้าน การเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างเป็นสิ่งสำคัญ อิฐมอญและอิฐคอนกรีตเป็นที่นิยมใช้ในประเทศไทย เราจะเปรียบเทียบคุณสมบัติและความแตกต่างของทั้ง อิฐมอญ VS คอนกรีต โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. อิฐมอญ
วัสดุก่อสร้างบ้านที่ควรเลือกซื้อคือ อิฐมอญ เนื่องจากมีความแข็งแรงทนทาน ไม่มีปัญหาในการฉาบแล้วเกิดการร้าว แถมมีราคาที่ถูกกว่าอิฐคอนกรีต แต่ข้อเสียคือไม่ดูดซึมน้ำได้ดี จึงไม่นิยมนำไปใช้ในการก่อผนังห้องน้ำและต้องใช้จำนวนมากกว่าอิฐคอนกรีต
2. อิฐคอนกรีต
วัสดุก่อสร้างบ้านที่ควรเลือกซื้อคือ อิฐคอนกรีต เนื่องจากมีน้ำหนักเบา มวลน้อย ความหนาแน่นต่ำ ทนไฟ ทนความร้อน และถือว่าถูกกว่าอิฐมอญ แต่ข้อเสียคือไม่ทนทานเท่าอิฐมอญ
6 เทคนิคเลือกวัสดุก่อสร้าง อย่างไรให้คงทน
การเลือกวัสดุก่อสร้างเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างบ้านที่มีคุณภาพและปลอดภัย ในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีการเลือกวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณ
- ได้มาตรฐาน : การเลือกวัสดุก่อสร้างที่มีมาตรฐานเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างบ้าน เพราะว่าถ้าใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดความเสี่ยงในการก่อสร้างขึ้นได้ ดังนั้นควรเลือกวัสดุที่ได้รับการรับรองมาแล้วเพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง
- ตรงตามสเป็กการใช้งาน : ในการสร้างบ้าน การเลือกวัสดุที่เหมาะสมตรงตามสเป็กการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้งานการก่อสร้างเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีมาตรฐาน การเลือกบริษัทรับเหมาที่ดีและได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกวัสดุเหล่านี้
- ช่วยลดความร้อน : การเลือกวัสดุก่อสร้างที่ช่วยลดความร้อนเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างบ้านในเมืองไทยที่ร้อนตลอดปี การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยลดความร้อนและประหยัดพลังงานในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
- มีความแข็งแรงทนทาน : การเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างบ้านที่แข็งแรงทนทานเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างบ้าน การเลือกวัสดุราคาถูกโดยไม่คำนึงถึงความแข็งแรงอาจทำให้เกิดปัญหาในระยะยาว เช่น บ้านทรุดโทรมหรือโครงสร้างบ้านไม่แข็งแรง ทำให้บ้านถล่มลงได้
- วัสดุทดแทนช่วยประหยัด : การเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างบ้านควรศึกษาให้ดีก่อน เพื่อหาวัสดุทดแทนที่ใกล้เคียงกันและใช้งานได้ดีไม่ต่างกัน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ แต่ต้องระวังราคาที่แรงเกินไป และเลือกวัสดุที่มีคุณภาพเพื่อให้บ้านมีคุณภาพและใช้งานได้อย่างยาวนาน
- คำนวณปริมาณ และขนาดของวัสดุ : การคำนวณขนาดและปริมาณวัสดุก่อสร้างที่แม่นยำมากที่สุดก่อนการซื้อจะช่วยลดค่าวัสดุที่เสียไปและไม่เหลือใช้ และช่วยประหยัดเงินในการสร้างบ้าน หากว่าไม่พอต่อการใช้งาน สามารถซื้อเพิ่มได้ แต่ต้องคำนวณว่าจะใช้เพิ่มมากน้อยแค่ไหน
การเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีผลต่อคุณภาพและความปลอดภัยของบ้านที่กำลังสร้างอยู่ จึงต้องคิดอย่างรอบคอบและเลือกซื้อวัสดุที่เหมาะสม และตรงตามสเป็กการใช้งาน ทั้งนี้ ยังมีเทคนิคการเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างเพิ่มเติมอีกหลายอย่างที่จะช่วยให้การก่อสร้างบ้านของคุณมีคุณภาพและปลอดภัย
โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon