พื้นกระเบื้อง เลือกแบบไหนดี ระหว่างหินแกรนิตกับกระเบื้องแกรนิโต
การเลือกซื้อ พื้นกระเบื้อง เพื่อใช้ในการก่อสร้างบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะแค่เปรียบเทียบที่ราคา หรือภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น บางครั้งจำเป็นต้องเปรียบเทียบเรื่องของคุณสมบัติวัสดุที่เราจะเลือกใช้เป็นองค์ประกอบด้วย อย่างเช่นใครที่กำลังมองหาวัสดุพื้นกระเบื้องสำหรับปูพื้นผนัง หรือท็อปเคาน์เตอร์ แต่ยังติดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใช้เป็นหินแกรนิตธรรมชาติ ที่ให้ความแข็งแกร่ง กับกระเบื้องแกรนิโต ที่มีลวดลายสวยงามดี วันนี้เราจึงมีหลักในการเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อที่จะได้ตรงตามวัตถุประสงค์มาฝากกันคะ ทั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบปัจจัยต่างๆตามคุณสมบัติของวัสดุทั้งสองประเภทเป็นหลัก
คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่านได้เลย แบบกระเบื้องปูพื้น เลือกอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน
1.ด้านรูปร่างลักษณะและคุณสมบัติภายนอก
หินแกรนิต
หินแกรนิตคือหินที่เกิดจากธรรมชาติ ฉะนั้นแต่ละแผ่นจึงจะให้สีสันและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะขึ้นอยู่กับส่วนประกอบทางเคมีและองค์ประกอบของแร่ธาตุตามธรรมชาติที่มีความแตกต่างกัน โดยมากแล้วจะพบเป็นสีขาว ชมพู ส้ม เทา น้ำตาล ไปจนถึงกระทั่งสีดำ อีกทั้งมีให้เลือกทั้งหินในประเทศ และนำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าหากจะเลือกนำไปใช้ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณของเจ้าของบ้านด้วย ส่วนขนาดของหินแกรนิตมีให้เลือกแบบสำเร็จรูป คือ 30 x 60 ซม., 40 x 80 ซม., 80 x 80 ซม., 60 x 60 ซม., 60 x 120 ซม., 60 x 150 ซม., 60 x 200 ซม. โดยมีความหนาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7 – 1.8 ซม. และเลือกแบบสั่งตัดตามแบบได้ทั้งขนาดและความหนา อย่างไรก็ดีการเลือกแบบที่สั่งตัดขนาดที่สั่งจะขึ้นอยู่กับหินแต่ละประเภทว่าสามารถตัดขนาดได้เท่าไหร่บ้าง ข้อดีของการสั่งตัดคือการติดตั้งจะไม่มีรอยต่อ เรียบเนียนเสมอกันทั้งแผ่นและเนื้อสัมผัสจะเป็นแบบผิวมัน แต่หากว่าต้องการผิวแบบหยาบให้ใช้วิธีการพ่นทราย หรือ พ่นไฟ หรือจะเซาะร่องตามระยะและความลึกที่ต้องการก็ได้
กระเบื้องแกรนิโต
กระเบื้องแกรนิโต คือกระเบื้องเซรามิกเนื้อพอร์ชเลนผ่านกระบวนการขั้นตอนการเผาที่อุณหภูมิสูง จึงมีความแข็งแกร่ง ทนทาน ดูดซึมน้ำต่ำ มีลวดลายให้เลือกหลากหลายตามแต่ผู้ผลิตจะออกแบบ ส่วนพื้นผิวมีทั้งแบบผิวด้าน กึ่งเงา และมันเงา ลักษณะของเนื้อกระเบื้องจะเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น ซึ่งหากมีการกระเทาะหรือเกิดรอยขีดข่วนจะสังเกตไม่ค่อยเห็น มีขนาดให้เลือกใช้ เช่น 12 x 12 นิ้ว, 12 x 24 นิ้ว, 24 x 24 นิ้ว มักจะมีขนาดให้เลือกใหญ่กว่ากระเบื้องปูพื้นหรือผนังทั่วไปความหนาจะอยู่ที่ประมาณ 1 ซม.
2.ด้านการนำไปใช้งาน
หินแกรนิต
หินแกรนิตสามารถสั่งตัดตามรูปแบบที่ต้องการได้ เจ้าของบ้านส่วนใหญ่จะนิยมนำไปใช้งานท็อปเคาน์เตอร์ครัว ท็อปเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบฝัง หรือวัสดุปูพื้นและผนัง เป็นต้น
กระเบื้องแกรนิโต
ในส่วนของกระเบื้องแกรนิโตซึ่งจะมีขนาดที่มาตรฐานกว่าจึงนิยมใช้ปูพื้นและผนัง โดยเฉพาะงานที่อยู่ภายนอกอาคาร เพราะน้ำหนักจะเบากว่าหิน และติดตั้งได้ง่ายเหมือนกระเบื้องเซรามิกทั่วไป แต่ถ้าหากอยากนำกระเบื้องแกรนิโตไปปูท็อปเคาน์เตอร์ก็สามารถทำได้ เพียงจะมีรอยต่อระหว่างแผ่นซึ่งต้องได้ช่างปูที่มีความชำนาญมากเพราะกระเบื้องให้ได้ระดับเท่ากันทุกแผ่น เว้นร่องให้สม่ำเสมอ และยาแนวให้เนียนสนิท
คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่านได้เลย 5 เทคนิคเลือกกระเบื้องปูพื้นให้เหมาะกับบ้าน
3.ด้านการติดตั้ง
หินแกรนิต
เนื่องจากมีน้ำหนักมากจึงต้องทำโครงสร้างรองรับที่แข็งแรงกว่าปกติ และหากนำไปใช้เป็นวัสดุปูพื้นที่ชั้นล่างควรมีแผ่นพลาสติกรองใต้พื้นคอนกรีตเพื่อป้องกันความชื้นจากดินที่จะมาสู่หิน เพราะอาจทำให้เกิดรอยด่างได้ ซึ่งการติดตั้งต้องปรับระดับพื้นด้วยปูนทรายหนาประมาณ 3 – 5 ซม. จัดเรียงลายหินแกรนิตตามลวดลายที่ต้องการ
กระเบื้องแกรนิโต
ส่วนการติดตั้งกระเบื้องแกรนิโต ก็เหมือนกับการปูกระเบื้องเซรามิกทั่วไป โดยถ้าเป็นกระเบื้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 80 x 80 ซม.ขึ้นไป จะต้องใช้เครื่องมือจับกระเบื้องเข้ามาช่วยในการติดตั้ง นอกจากนั้นการเว้นร่องยาแนว 2 มิลลิเมตรสำหรับกระเบื้องที่ตัดขอบ และ 3 มิลลิเมตรสำหรับกระเบื้องไม่ตัดขอบ เพราะถ้าปูชิดเกินไปหรือไม่เว้นร่องไว้ อาจเกิดปัญหากระเบื้องขยายตัวแล้วดันกันจนโก่งตัวได้
4.ด้านการดูแลรักษา
หินแกรนิต
ข้อระวังในการเลือกใช้หินแกรนิตก็คือความชื้นและความร้อนโดนผิวหน้า เพราะอาจทำให้เกิดรอยด่างได้ง่าย รวมทั้งหมั่นเคลือบด้วยน้ำยากันตะไคร้ที่เหมาะสมตามคำแนะนำของช่างอยู่เสมอ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่มีค่าเป็นกรดทำความสะอาดผิวหน้า
กระเบื้องแกรนิโต
กระเบื้องแกรนิโต จะดูแลรักษาได้ง่ายกว่า แค่หมั่นทำความสะอาดทั้งที่ผิวกระเบื้องและบริเวณร่องยาแนวเป็นประจำ แล้วหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นประเภทกรด-ด่างรุนแรงเพื่อไม่ให้ยาแนวเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็วกว่าที่ควร
5.ด้านราคา
เนื่องจาก “หินแกรนิต” เป็นหินที่มาจากธรรมชาติแน่นอนว่าราคาย่อมสูงกว่า “กระเบื้องแกรนิโต” ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา พื้นผิว ขนาด สีสัน และลวดลาย ของหินแกรนิตด้วย เพราะลวดลายที่แตกต่างกันจะให้ราคาที่ไม่เท่ากัน ส่วนกระเบื้องแกรนิโตราคาจะอยู่ในระดับราคาเท่ากับกระเบื้องเซรามิกทั่วไป
สรุปได้ว่าการเลือกใช้ทั้งหินแกรนิตหรือกระเบื้องแกรนิโตจึงขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณของเจ้าของบ้านเป็นหลัก เพราะวัสดุทั้ง 2 ประเภทสามารถตอบโจทย์และใช้งานได้ตามความต้องการของเจ้าของบ้านเองทั้งสองชนิด รวมทั้งต้องพิจารณาเรื่องการดูแลรักษาด้วยว่าสะดวกแบบไหนมากกว่ากันค่ะ