ปรับปรุงบ้าน ให้กลับมาเป็นบ้านใหม่ได้เพียงแค่ทาสีบ้าน
ปรับปรุงบ้าน ให้กลับมาเป็นบ้านใหม่นิยมทำกันมาโดยเฉพาะบ้านที่อยู่อาศัยมานานๆวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างก็คงเริ่มมีเสื่อมสภาพ ทรุดโทรมหมดอายุการใช้งานไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะสภาพภายนอกบ้านที่ผ่านศึก แดด ฝน มาเป็นเวลาแรมปี ทั้งๆที่ยังผ่อนบ้านไม่หมดเลยด้วยซ้ำ ครั้นจะไปดาวน์บ้านใหม่ก็เกรงใจเงินในกระเป๋า แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพียงแค่คุณลองทาสีบ้านใหม่ รับรองว่าคุณจะได้บ้านใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะเริ่มทาสีบ้านใหม่คุณควรรู้ก่อนว่าต้องมีกระบวนการและขั้นตอนในการดำเนินการทำอย่างไรบ้าง ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำกันค่ะ
คุณอาจสนใจบทความที่่เกี่ยวข้อง คลิกอ่านได้เลย 6 จุดอันตรายในบ้านที่ต้องซ่อมแซมก่อนที่จะบานปลาย
ขจัดสีเก่าออกก่อน ทาสีใหม่
ในทางปฎิบัติทั่วไปแล้วก่อนที่จะเริ่มทาสีบ้านใหม่ควรที่จะขจัดสีเก่าออกไปให้หมดก่อนเสมอทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดปัญหาการยึดเกาะของสีใหม่ไม่ดีเท่าไหร่นัก ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้สีเกิดการหลุดล่อนในภายหลังอีกด้วย ฉะนั้นการขจัดสีเก่าออกก่อนมีขั้นตอน ดังนี้
- ขูดสี : ก่อนที่จะเริ่มขูดสีจะต้องมีอุปกรณ์มาเป็นเครื่องมือช่วยด้วย นั่นก็คือ “เกรียง” ไว้ใช้สำหรับขูดสี และเกรียงสำหรับกบขูดสี การขูดสีจะเหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก ผิวงานเรียบ แต่ถ้าเกิดสีเก่าติดแน่นมาก อาจเริ่มจากการใช้กบขูดสีแบบฟันเลื่อยขูดผิวสีให้เป็นขุยก่อน แล้วตามด้วยกบขูดเรียบ จากนั้นก็ใช้กระดาษทรายขัดแต่งให้เรียบ
- พ่นด้วยความร้อน : ให้นำอุปกรณ์ที่เป็นเตาฟู่หรือตะเกียงฟู่ หรือจะใช้เป็นเปลวไฟพ่นสำหรับการเชื่อมก๊าชความร้อน เมื่อสีโดนความร้อนจะเกิดการพองตัว ย่นเหลว จากนั้นก็ให้ทำการขูดสีด้วยเกรียงขูดสีอีกครั้ง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดแรง และเวลาในการขูดสีแบบทั่วไปได้ดีกว่าเดิม
- สารเคมีลอกสี : เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่มีราคาแพง เพียงแค่ใช้น้ำยาเคมีมาทำการลอกสี จากนั้นก็นำเกรียงขูดสีมาขูดสีที่ยังตกค้างอีกครั้ง แต่วิธีนี้มีข้อควรระวังคือเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากสารเคมีดังกล่าวค่อนข้างจะอันตรายต่อผิวหนังเป็นอย่างมาก ดังนั้นก่อนเริ่มทำงานจะต้องสวมใส่ถุงมือให้มิดชิดด้วยทุกครั้งรวมทั้งหาที่ครอบจมูกมากั้นกลิ่นสารเคมีจะได้ไม่สูดดมเข้าไป
คุณอาจสนใจบทความที่่เกี่ยวข้อง คลิกอ่านได้เลย ขั้นตอนน่ารู้ก่อนรีโนเวทบ้านทั้งหลัง
กรณีที่ต้องการทาสีใหม่ ทับสีเดิม
- พิจารณาพื้นผิวเดิม : กรณีที่จะทาสีบ้านใหม่ ด้วยการไม่ขูดสีเดิมออกก่อน สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องตรวจเช็คสภาพสีเดิมก่อน ว่ายังมีสภาพดี ไม่หลุดลอก แค่มีความหม่นหมองก็ให้ทำการล้างพื้นผิวผนังสีบ้านออกใหม่ให้สะอาด จากนั้นก็รอให้พื้นผิวแห้งสนิทเสียก่อน อาจทิ้งระยะเวลาไว้พอสมควร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศประกอบด้วย เมื่อแห้งดีแล้วก็สามารถทาสีทับได้ทันที โดยไม่ต้องทาสีรองพื้นก่อน ส่วนข้อควรระวังก็คือ การใช้ทินเนอร์ เพราะทินเนอร์มีคุณสมบัติต่อการละลายของสี อาจส่งผลให้สีเดิมเกิดการย่นพองตัวได้ หากว่าเกิดลักษณะนี้ขึ้นก็ต้องขูดสีเพื่อเคลียร์ผนังให้เกลี้ยงเสียก่อน
- พื้นผิวเดิม ไม่พร้อม : มีสีหลุดลอก เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้จะไม่สามารถทาสีทับได้ทันที จำเป็นต้องขจัดสีเดิมออกให้หมดเสียก่อน โดยสามารถดูข้อมูลการขจัดสีเก่าจากข้างต้น
เตรียมความพร้อมของพื้นผิวบ้าน ก่อนเริ่มทาสี
- พื้นผิวผนังปูนฉาบ ผนังคอนกรีต : กรณีที่พื้นผิวผนังชำรุด จำเป็นต้องซ่อมแซมก่อนเสมอและทำความสะอาดบริเวณดังกล่าว แต่ถ้าพบรอยแตกร้าว รอยเจาะ ควรทำการโป้วด้วยปูนทรายหรือยิปซัมพลาสเตอร์ ด้วยการใช้เกรียงโป้วสี หรือเกรียงใบโพธิ์ กดอัดแต่งผิวให้เรียบเสียก่อน แต่ถ้าหากว่ารอยแตกร้าวนั้นมีความกว้างประมาณ 1-2 นิ้ว ยาวตลอดและยังมีรอยแยกลึกเท่าความหนาเดิม ให้พรมน้ำให้ชุ่มจากนั้นก็ทำการฉาบปูนทับ แล้วรอจนกว่าจะแห้งจึงสามารถทาสีใหม่ทับไปได้
- พื้นผิวไม้ : ในที่นี้ อาจนำไปประยุกต์ใช้กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ชนิดอื่นด้วยก็ได้ ส่วนวิธีการคือเริ่มจากการทำความสะอาดผิวไม้ก่อน แต่ถ้าผิวไม้มีการชำรุดให้โป้วอุดด้วยขี้เลื่อยผสมกาวลาเท็กซ์ นำเกรียงขูดสีแต่ให้เรียบ ทิ้งให้แห้งแล้วใช้กระดาษทราย ขูดผิวให้เรียบอีกครั้ง ซึ่งระหว่างที่กำลังดำเนินการอยู่อาจจะต้องสังเกตร่องรอยชำรุดด้วย หากยังคงพบว่ามีรอยอยู่ก็ให้กลับเข้าสู่ขั้นตอนเดิม นั่นคือการอุดรอยตำหนิด้วยขี้เลื่อยผสมกาวลาเท็กซ์
- พื้นผิวโลหะ : กรณีผิวโลหะ ให้ทำการตรวจสอบทุกซอกทุกมุมให้ดี โดยเฉพาะบ้านที่โดนน้ำท่วมมาก่อน ปัญหาที่ตามมาก็จะเป็นเรื่องของโลหะที่มักจะขึ้นสนิมซึ่งหากเกิดสนิมขึ้น ให้ทำการใช้น้ำยาขัดสนิมแล้วขัดด้วยกระดาษทรายจนสนิมออกจนหมด ดูเรียบแวว ถึงจะสามารถทาสีทับลงไปอีกที
การทาสีบ้านใหม่ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก เจ้าของบ้านสามารถทำเองก็ได้ด้วยการใช้วันหยุดติดกันหลายๆวัน ชวนลูกๆมาช่วยกันทาสี จะได้เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันในครอบครัวพร้อมกับการมีส่วนร่วมเลือกสีสันที่แต่ละคนชื่นชอบ หรือจะตกแต่งศิลปะให้กับบ้าน วาดลวดลายเข้าไป เพียงเท่านี้บ้านของคุณก็จะกลายเป็นบ้านใหม่ที่สวยงามสดใสแถมยังมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครอีกด้วยค่ะ