บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ September 6, 2023
ประตูไม้มีการใช้มานานหลายศตวรรษ เป็นทางเข้าบ้าน อาคารสํานักงาน และอาคารประเภทต่างๆ สำหรับหมายถือเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่มีความทนทาน ทําให้ประตูไม้ยังคงเป็นที่นิยมในการก่อสร้างและตกแต่งภายในสมัยใหม่ โดยในเนื้อหานี้จะเป็นการแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของประตูไม้แต่ละชนิดตั้งแต่ การใช้งาน ประเภทต่างๆ และวิธีการติดตั้งและบํารุงรักษาอย่างถูกต้อง
ประตูไม้คืออะไร
ประตูไม้ คือ ประตูที่ทําจากไม้เป็นหลัก ไม้เป็นวัสดุที่หลากหลายรูปแบบ สามารถแกะสลัก ปรับรูปทรง และย้อมสีได้ เพื่อสร้างประตูด้วยลวดลายและดีไซน์ต่างๆ ลายไม้และสีธรรมชาติของไม้ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับอาคารหรือห้องได้
ข้อดีของประตูไม้มีอะไรบ้าง
สำหรับประตูไม้ถือเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีความสวยงามและสามารถขึ้นรูปได้ดี โดยไม้ในบางชนิดมีความทนทานสูง รวมถึงมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่ถือว่าเป็นข้อดี ดังนี้
- ความสวยงาม : ไม้มีความงดงามโดยธรรมชาติ สามารถเพิ่มความสวยงามได้มากขึ้นด้วยการเคลือบผิวต่างๆ ไม้ยังแกะสลักลวดลายประณีต หรือปล่อยทิ้งไว้เรียบง่าย
- ทนทานและแข็งแรง : ประตูไม้ถือเป็นวัสดุที่มีคุณภาพดี ทนทานและแข็งแรง หากมีการดูแลรักษาอย่างดี ก็ถือว่าเป็นวัสดุที่มีอายุการใช้งานได้อย่างยาวนาน
- กันความร้อน : ไม้เป็นฉนวนกันความร้อนตามธรรมชาติ ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในห้องได้
- กันเสียง : ประตูไม้ช่วยกั้นเสียงรบกวนได้ดี เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องใช้เสียง หรือบริเวณอื่นๆ ที่มีเสียงรบกวน
การใช้งานประตูไม้
ประตูไม้สามารถใช้ได้หลากหลายวัตถุประสงค์ ทั้งในที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น
- ประตูภายนอก : เป็นประตูหน้าบ้าน ประตูหลังบ้าน หรือประตูข้าง
- ประตูภายใน : เป็นประตูห้อง ประตูห้องน้ํา หรือประตูตู้เสื้อผ้า
- อาคารพาณิชย์ : ใช้เป็นประตูสํานักงาน ห้องประชุม หรือประตูห้องโรงแรม
ประเภทของประตูไม้
ประตูไม้มีหลายประเภท ตามการใช้งานและความต้องการ โดยการเลือกใช้บานประตูไม้จะขึ้นอยู่กับความต้องการในเรื่องของความสวยงามและความทนทาน ขึ้นอยู่กับประเภทของตัวไม้ดังนี้
- ประตูไม้เนื้อแข็ง : ทําจากไม้ชิ้นเดียวหรือหลายชิ้นติดกาวเข้าด้วยกัน เป็นประตูไม้แบบดั้งเดิม มักมีราคาแพงที่สุด
- ประตูไม้เอ็นจิเนียร์ : ไม่ได้ทําจากไม้ทั้งหมด มีโครงไม้ แต่ภายในโพรง หรือมีแกนกลางทําจากกระดาษลูกฟูกหรือพลาสติก น้ําหนักเบาและราคาถูกกว่าประตูไม้เนื้อแข็ง
- ประตูไม้เทียม : ทําจากการผสมกันระหว่างไม้แผ่นบางและวัสดุสังเคราะห์ เช่น ไม้อัด หรือ แผ่นปาติเกิลบอร์ด ช่วยป้องกันการบิดงอและแตกร้าว
ประเภทต่างๆ นี้ สามารถออกแบบเป็นประตูชนิดต่างๆ ได้หลากหลาย ประตูบานเฟี้ยม ประตูแบบช่องลม ประตูไม้แบบฝรั่งเศส เป็นต้น
วิธีติดตั้งประตูไม้
การติดตั้งประตูไม้มีขั้นตอนหลายอย่าง โดยจะมีการใช้ความชำนาญ หรือควรศึกษาขั้นตอนการติดตั้งให้ดี เพื่อให้แน่ใจว่าประตูไม้ของคุณจะมีระยะห่างที่เหมาะสม และตรงกับช่องของบานประตู โดยวิธีการติดตั้งประตูไม้จะมีดังนี้
- วัดขนาด : วัดขนาดของช่องประตูให้แน่นอนเพื่อให้ประตูได้ขนาดพอดี
- เตรียม : ถ้าประตูไม่ได้ยึดบานพับมาพร้อมกับอุปกรณ์แล้ว จะต้องติดตั้งบานพับเอง โดยทําเครื่องหมายตําแหน่งบานพับบนประตูและช่องประตู จากนั้นใช้สิ่วขุดร่อง
- ติดตั้ง : วางประตูในช่อง ตรวจสอบระดับของประตูว่าอยู่ในจุดที่ต้องการ จากนั้นยึดบานพับเข้ากับช่องประตูด้วยสกรู
- ตกแต่งผิว : เมื่อติดตั้งประตูเรียบร้อยแล้ว ก็ทาสีย้อม หรือสีเคลือบเงา ตามชอบ
การบํารุงรักษาประตูไม้
เพื่อให้ประตูไม้มีสภาพดีและใช้งานได้อย่างถูกต้อง จําเป็นต้องมีการบํารุงรักษาสม่ําเสมอ ดังนี้
- ทําความสะอาด : เช็ดประตูด้วยผ้านุ่มชุบน้ํา หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงที่ทําลายไม้
- ทาสารกันชื้น : เพื่อป้องกันความชื้นและแสงแดด ควรทาสารเคลือบผิว ซึ่งต้องทําซ้ําทุกๆ สองสามปี
- ตรวจสอบ : ตรวจดูประตูอย่างสม่ําเสมอว่ามีรอยเสียหายหรือชํารุดหรือไม่ ถ้าประตูเริ่มติดขัดหรือปิดเปิดยาก อาจต้องเพลนหรือขัดพื้นผิว
ประตูไม้เป็นคุณลักษณะที่สวยงาม ทันสมัย และมีประโยชน์ใช้สอยให้กับพื้นที่ได้หลากหลาย ด้วยประเภทและรูปแบบมากมาย สามารถเลือกประตูไม้ให้เข้ากับความต้องการและวัตถุประสงค์การใช้งานได้ แม้ว่าจะต้องมีการบํารุงรักษา แต่ความสวยงามและคงทนของประตูไม้ก็คุ้มค่าในมุมมองของความสวยงาม ซึ่งบานประตูไม้ถือเป็นที่สูบอีกเช่นพื้นที่ได้รับความนิยม และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามยุคสมัย หรือว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ดี
เครื่องมือช่างที่ใช้กับประตูไม้ได้
1. ลูกบิดประตู (Door Knob)
ลูกบิดประตูเป็นส่วนประกอบที่สําคัญของประตูไม้ ใช้ในการเปิดหรือปิดประตู การติดตั้งลูกบิดประตูบนประตูไม้ ต้องเจาะรูไม้ให้เข้ากับลูกบิดและกลไกล็อคที่ทําให้ประตูปิดได้อย่างมั่นคง ซึ่งเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการรักษาความสามารถในการใช้งานและความปลอดภัยของประตูไม้ หากต้องการทําความเข้าใจวิธีเลือกและติดตั้งลูกบิดประตูให้ดียิ่งขึ้น สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ วิธีติดตั้งลูกบิดประตู
2. สีกันสนิม (Rust-Proof Paint)
เพื่อรักษาความสวยงามและความทนทานของอุปกรณ์โลหะที่ประตู เช่น มือจับและลูกบิดบนประตูไม้ สีป้องกันสนิมเป็นเครื่องมือสําคัญ ช่วยป้องกันชิ้นส่วนเหล่านี้จากสนิมและการกัดกร่อนที่เกิดขึ้นได้ตามกาลเวลา โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง การเคลือบผิวด้วยสีป้องกันสนิมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของ ทําให้ประตูไม้ของคุณทํางานได้ดีและดูดีเป็นเวลานาน หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้สีป้องกันสนิมกับประตูไม้ แนะนําให้อ่าน คู่มือการใช้สีกันสนิม
3. สว่านไฟฟ้า (Electric Drills)
สว่านไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเตาะรูบนไม้เพื่อยึดสกรูและอุปกรณ์อื่นๆ สว่านช่วยยึดประตูให้ติดกรอบอย่างมั่นคง และติดตั้งส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ลูกบิดหรือกลอนตาไก่ได้ง่าย สร้างความสะดวกสบายและรวดเร็วกว่าวิธีการทางมือ สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้สว่านไฟฟ้าศึกษาเพิ่มเติมที่ เทคนิคการใช้สว่านไฟฟ้า
4. แล็กเกอร์ทาไม้ (Wood Lacquer)
แล็กเกอร์ทาไม้ทําหน้าที่เป็นเคลือบไม้เพื่อเพิ่มความทนทานและความสวยงามให้กับประตูไม้ การเคลือบผิวด้วยแล็กเกอร์ป้องกันประตูจากรอยขีดข่วน คราบสกปรก และความเสียหายจากน้ํา ทําให้ประตูใช้งานได้นานขึ้น ยังให้พื้นผิวเรียบเนียนเงางามแก่ไม้อีกด้วย หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้แล็กเกอร์ทาไม้บนประตูไม้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ทำความรู้จักแล็กเกอร์ทาไม้
5. คีมล็อค (Locking Pliers)
คีมล็อคใช้จับยึดส่วนประกอบต่างๆ ได้อย่างแน่นหนา ช่วยในการติดตั้งหรือปรับแต่ง ป้องกันอุบัติเหตุและทําให้การติดตั้งประตูไม้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คีมล็อค ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ เคล็ดลับการใช้คีมล็อค
โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon