บ้านสวย อยู่เสมอด้วยเทคนิคดูแลซ่อมบำรุงบ้านให้ใหม่เว่อร์ตลอดเวลา

บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ July 28, 2023

บ้านสวย อยู่เสมอด้วยเทคนิคดูแลซ่อมบำรุงบ้านให้ใหม่เว่อร์ตลอดเวลา

บ้านสวย ใคร ๆ ก็อยากอยู่ แต่ว่าบ้านที่อยู่อาศัยเป็นระยะเวลานานๆแน่นอนอยู่แล้วว่าบ้านก็ต้องทรุดโทรมไปตามกาลเวลาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เจ้าของบ้านส่วนใหญ่จึงต้องหาทางปรับปรุงดูแลรักษาบ้าน ด้วยวิธีการต่างๆนานาหรือแม้กระทั่งทดลองทำเองก่อนในเบื้องต้น บางครั้งเราก็สามารถใช้เทคนิคซ่อมแซมบ้านเองได้ แต่ถ้าเกินกว่าจะเยียวยาได้ก็คงต้องพึ่งมืออาชีพให้เข้ามาดูแลซ่อมแซมแทนเราส่งผลต้องเสียเงินในการบำรุงรักษาไปก็ไม่น้อย บางจุดเสียเพียงเล็กน้อย แต่ด้วยความที่เราไม่ใช่ช่างเราจึงไม่มีความรู้ความชำนาญพอที่จะซ่อมด้วยตนเองได้ แต่ถ้าเรารู้เทคนิคการซ่อมบำรุงง่ายๆได้ก็จะช่วยให้เราประหยัดทั้งเงิน ทั้งเวลาไปได้เยอะเลยล่ะคะ

---

1.ก๊อกน้ำฝักบัวในบ้านรั่ว

ปกติแล้วก๊อกน้ำที่อยู่ตามจุดต่างๆของบ้าน เช่น อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ อ่างล้างจานในห้องครัว ก๊อกน้ำบริเวณซักล้าง ก๊อกน้ำสำหรับรดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน รวมไปถึงฝักบัวที่ใช้อยู่ทุกวัน พอใช้เป็นระยะเวลานานๆก็จะเริ่มมีอาการอุดตัน หรือเกิดการรั่วตามระยะเวลาของการใช้งาน ซึ่งบางทีเจ้าของบ้านก็จะเลือกใช้วิธีซื้อมาเปลี่ยนใหม่ เพราะสะดวกและรวดเร็วกว่า แต่ความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดก็ได้ เพียงแค่คุณหมุนหัวก๊อกหรือหัวฝักบัวแล้วดึงเอาแหวนเล็กๆที่อยู่ด้านในออก แล้วใส่วงแหวนอันใหม่เข้าไป ก็แก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จแล้ว เพราะปัญหาหลักๆที่ก๊อกน้ำรั่วก็มักมาจากเจ้าแหวนเล็กๆนี่แหล่ะ

---

2.ทำความสะอาดฟิลเตอร์แอร์

เมื่อผ่านมาสักระยะหนึ่งบริเวณหน้ากากตรงฟิลเตอร์แอร์มักจะมีฝุ่นมาเกาะจับอยู่อย่างหนาแน่น  ก็จะส่งผลให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้น กินไฟมากขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน ฉะนั้นการถอดฟิลเตอร์แอร์ออกมาล้างทำความสะอาดจะช่วยให้ห้องคุณเย็นสบายเท่ากับตอนติดตั้งแอร์ใหม่ๆที่สำคัญช่วยประหยัดค่าไฟได้หลายสตางค์

---

3.ล้างทำความสะอาดรางน้ำฝน

บางท่านอาจสงสัยว่าการทำความสะอาดรางน้ำฝนจะช่วยในการซ่อมบำรุงรักษาบ้านได้อย่างไร ที่จริงแล้วการที่เราปล่อยให้รางน้ำฝนอุดตัน จะส่งผลให้เกิดปัญหารางน้ำฝนล้นรางลงมาเปื้อนผนังบ้าน หน้าต่าง หรือข้าวของเครื่องใช้ที่วางบริเวณนั้นเสียหาย ยิ่งถ้าเป็นขอบหน้าต่างหรือประตูด้วยแล้ว ถ้าโดนน้ำนานๆก็จะบวม ปริแตก ทำให้เราต้องมาเสียเงินค่าซ่อมอีก

---

4.ทดสอบเครื่องตรวจจับควัน

ปัจจุบันบางบ้านอาจจะมีการติดเครื่องตรวจจับควันไฟเอาไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัยต่อเหตุเพลิงไหม้ ดังนั้นต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ เพราะอุปกรณ์พวกนี้จะทำงานด้วยแบตเตอรี่ และมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2 ปี เจ้าของบ้านเองก็ควรต้องจำวันแรกที่ติดตั้งไว้ด้วย เพื่อจะได้รู้กำหนดระยะเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่

---

5.ซ่อมแซมรอยบุ๋มบนเฟอร์นิเจอร์ไม้

บางครั้งพวกเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ใช้ประจำเมื่อมีการกระแทกบ่อยๆอาจจะเกิดรอยบุ๋มได้ ทำให้เฟอร์นิเจอร์ดูไม่สวยงาม วิธีที่จะกำจัดรอยบุ๋มเหล่านี้ได้ก็คือนำผ้าคอตตอนที่ไว้เช็ดจานชุบน้ำให้ชุ่ม หลังจากนั้นก็พับเป็นสี่เหลี่ยมเตรียมพร้อมไว้ เสร็จแล้วก็ตั้งเตารีดระบบแห้งที่อุณหภูมิสูงสุด รอจนกระทั่งเตารีดร้อนจึงนำผ้าชุบน้ำที่เตรียมไว้มาประคบไปที่รอยบุ๋ม แล้วค่อยๆจับเตารีดอังไปที่ผ้ากะระยะเวลาประมาณ 2-3 วินาที แล้วถึงนำผ้าออก ใช้น้ำยาขัดเฟอร์นิเจอร์ไม้ขัดไปอีกครั้งทำวิธีนี้ซ้ำไปเรื่อยๆจนกว่ารอยบุ๋มจะหายไป

---

6.ซ่อมวอลเปเปอร์ที่หลุดออก

บ้านที่ติดวอลเปเปอร์เพื่อสร้างความสวยงามให้กับผนัง พอผ่านไปสักระยะวอลเปเปอร์จะจะหลุดร่อนออกหรือลวดลายทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด คุณไม่จำเป็นต้องลอกออก แต่ลองใช้วิธีการแก้ไขง่ายๆคือการนำลูกกลิ้งขนาดเล็กที่ไว้ใช้สำหรับทากาว มาชุบกาวติดผนัง แล้วทาทับไปที่วอลเปเปอร์แผ่นที่หลุดร่อนออกมา และผนังบริเวณนั้นด้วย หลังจากนั้นก็แปะชิ้นส่วนวอลเปเปอร์ที่หลุดออกมากลับไปที่เดิม รอให้แห้งคุณก็จะได้ผนังวอลเปเปอร์ที่สวยงามกลับคืนมาตามเดิม

---

7.ซ่อมเสียงเอี๊ยดอ๊าดของบานประตู

เชื่อได้ว่าหลายบ้านคงจะประสบปัญหาทุกครั้งที่บิดประตูทีไรก็จะมีเสียงสุดแสนจะเสียวฟันเอี๊ยดอ๊าดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ใช่ว่าจะมีวิธีแก้ แค่คุณถอดลูกบิดประตูออกมาจากตรงบานพับแล้วนำมาขัดทำความสะอาดฝุ่น รวมทั้งคราบสกปรกต่างๆออกให้หมด หลังจากนั้นก็นำปิโตรเลียมเจลมาทาที่ลูกบิดและบานพับให้ทั่ว เมื่อทำความสะอาดจนแน่ใจแล้วก็นำลูกบิดใส่กลับเข้าไปที่บานพับตามเดิมเท่านี้ก็เรียบร้อยหมดสิ้นเสียงที่บาดแก้วหูอีกแล้วล่ะคะ

---

บางครั้งจุดที่มีการชำรุดทรุดโทรมเพียงเล็กน้อยภายในบ้าน ก็อาจจะสร้างปัญหาที่ใหญ่หลวงให้กับเจ้าของบ้านด้วยก็เป็นได้ แต่ถ้าเจ้าของบ้านรู้จักวิธีการซ่อมแซมด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปตามช่างมาซ่อมให้เสียเวลา เพราะบางครั้งเราอาจจะไม่รู้เท่าทันกลโกงของช่างยิ่งทำให้เราเสียเงินเพิ่มขึ้นไปอีก เพียงแค่คุณรู้จักเทคนิคการดูแลบ้าน ที่เรานำมาฝากถึงจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งแต่ก็เป็นหลักการเบื้องต้นที่จะช่วยคุณสามารถซ่อมแซมบ้านได้ด้วยตนเอง รวมทั้งเป็นการป้องกันบ้านจากความเสียหายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออีกด้วยค่ะ

---

จุดสำคัญของบ้าน ที่ควรซ่อมแซมก่อนเป็นอันดับแรก

การซ่อมแซมบ้านเก่าเป็นสิ่งที่ต้องคอยใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ เพราะบ้านเป็นที่อยู่อาศัยและพักผ่อนของครอบครัว โดยเฉพาะการซ่อมแซมบ้านที่ต้องหมั่นเอาใจใส่ เราจึงต้องรู้จักจุดอันตรายและแก้ไขในเบื้องต้นอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่โตขึ้นในภายหลัง

• ซ่อมแซมไม้ผุพัง : การเปลี่ยนไม้ที่ผุพังของเฟอร์นิเจอร์เป็นเรื่องสำคัญเพราะไม้ที่ผุพังจะทำให้การซ่อมแซมเป็นเรื่องยากขึ้น นอกจากนี้ สัตว์และแมลงตัวเล็กๆอาจเข้าไปอยู่ในโพรงไม้ และปัญหาปลวกอาจเกิดขึ้น การซ่อมแซมไม้ผุนั้นเราต้องเอาส่วนที่ผุออกให้หมดเสียก่อน แล้วจึงเสริมไม้ใหม่เข้าไปแทน แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำได้เอง ก็ควรจะดำเนินการจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญ
• ท่อระบายน้ำ : การทำความสะอาดท่อหรือทางระบายน้ำเป็นสิ่งสำคัญเพราะหากปล่อยไว้นานๆ อาจทำให้เกิดการอุดตันและน้ำท่วมขัง ทำให้เกิดปัญหาเล็กๆกลายเป็นปัญหาใหญ่โต ดังนั้นควรหมั่นสำรวจและทดสอบฉีดน้ำล้างเพื่อตรวจสอบว่าน้ำไหลผ่านได้สะดวกหรือไม่ และถ้าไม่ปกติก็ควรดำเนินการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
• กระเบื้องหรือวัสดุปูพื้นที่แตกร้าว : การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกระเบื้องที่แตกร้าวบนพื้นที่โรงจอดรถหรือบริเวณบ้านไม่ควรถูกละเลย เพราะรอยแตกแยกเล็กๆก็จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อรถวิ่งทับเข้าออกทุกวันก็จะทำให้รอยแตกเพิ่มขึ้น การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนกระเบื้องที่แตกร้าวออกเร็วๆนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาซ่อมไม่นานมาก
• ก๊อกน้ำ หรือหัวฉีดที่รั่วซึม : การที่ก๊อกน้ำหรือหัวฉีดน้ำฝักบัวมีรอยน้ำหยดออกมานิดๆ อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่ต้องรีบแก้ไข แต่หากปล่อยไว้นานวันเข้า ก็จะส่งผลให้เป็นปัญหาที่ใหญ่มากขึ้นได้เช่นกัน วิธีการซ่อมแซมเราก็อาจจะเปลี่ยนหัวก๊อกใหม่หรือรื้อหัวก๊อกออกมาแล้วเปลี่ยนแค่ลูกยางที่อยู่ข้างในแทนก็ได้เช่นเดียวกัน

---

ขั้นตอนการซ่อมบ้านด้วยตัวเอง และจุดที่ควรตรวจเช็คภายในบ้าน

การดูแลและซ่อมบำรุงบ้านเปรียบเสมือนการดูแลรักษาร่างกายของคน โดยเจ้าของบ้านควรตรวจสอบทุกซอกทุกมุมของบ้านเพื่อหาสาเหตุของปัญหา เช่น สายไฟชำรุด หรือท่อระบายน้ำมีสภาพตัน เพื่อป้องกันไม่ให้บ้านเสียหายและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ซึ่งเราจะแนะนำเคล็ดลับในการตรวจสอบและซ่อมบ้านด้วยตัวเองให้คุณลองนำไปใช้กันดู

• ตรวจสอบสายไฟภายในบ้าน : สายไฟเสื่อมโทรมหรือชำรุดอาจเกิดเป็นอันตรายได้ ดังนั้น ควรตรวจสอบสายไฟทั้งหมดในบ้านโดยเฉพาะสายไฟที่ใช้งานบ่อย หากพบว่ามีสายไฟชำรุด ควรดำเนินการซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด
• ตรวจสอบท่อระบายน้ำ : การตรวจสอบท่อระบายน้ำภายในบ้านเป็นเรื่องสำคัญเพื่อป้องกันการอุดตันและเกิดฝังเก็บน้ำในท่อที่อาจทำให้เกิดความเสียหายกับบ้านได้ ดังนั้น เราควรตรวจสอบท่อระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ และดำเนินการซ่อมแซมทันทีหากพบว่ามีท่อที่ชำรุด
• ตรวจสอบหลังคา : การตรวจสอบหลังคาภายนอกบ้านเป็นเรื่องสำคัญเพื่อความปลอดภัยของบ้าน หากพบว่าหลังคามีรอยแตกหรือชำรุด ควรดำเนินการซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด
• ตรวจสอบที่อยู่อาศัย : การตรวจสอบที่อยู่อาศัยภายในบ้านเป็นเรื่องสำคัญเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย ควรตรวจสอบห้องน้ำ, ห้องครัว และที่อยู่อาศัยอื่นๆเพื่อหาสาเหตุของปัญหา เช่น หลอดไฟที่เสีย หรือแผงวงจรที่ชำรุด และดำเนินการซ่อมแซมทันทีหากพบว่ามีปัญหา

โดยสรุปแล้ว การดูแลและซ่อมบ้านเป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำเป็นประจำ เราควรตรวจสอบสายไฟ ท่อระบายน้ำ หลังคาและที่อยู่อาศัยเพื่อหาสาเหตุของปัญหาและดำเนินการซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้บ้านเสียหายและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม การดูแลรักษาบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะบ้านเป็นหัวใจสำคัญของครอบครัว ควรตรวจสอบความเรียบร้อยของบ้านบ่อยๆ และซ่อมแซมให้เป็นอย่างดีเพื่อรักษาความสะอาดและความเรียบร้อยของบ้านให้ดีเสมอ

---

ในการดูแลบ้านให้ดูสวยอยู่เสมอ ควรจะมีการตรวจสอบคุณภาพของวัสดุที่ใช้ภายในบ้านทุกชนิด โดยมีการกำหนดระยะเวลาเช็ค ซึ่งหากเป็นการตรวจสอบด้วยตัวเองสามารถไล่ตรวจสอบได้จากวัสดุที่อาจมีระยะเวลาในการใช้งานน้อย เช่นวัสดุที่ทำจากไม้ซึ่งอาจจะมีสีเคลือบที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลาเหลืออยู่การใช้งาน หรือตรวจสอบหลังคาซึ่งอาจมีการรั่วซึม โดยหลังคาแต่ละชนิดก็มีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่นหลังคากระเบื้อง และอย่างที่ทราบกันดีสำหรับจุดสำคัญที่ควรตรวจสอบก่อนเริ่มจะซ่อมแซมบ้านหรือจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่นั่นก็คือเรื่องของท่อระบายน้ำ รวมถึงพื้นกระเบื้อง หรือกำแพงบ้านที่มีรอยแตกร้าว นับว่าเป็นจุดสำคัญที่ควรจะมีการแก้ไขโดยทันที รวยทั้งสองอย่างนี้ควรจะใช้บริการช่างที่มีความชำนาญ เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด