บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ September 30, 2023
บานหน้าต่างไม้ แตกร้าวมีวิธีการแก้ไขได้อย่างไร
บานหน้าต่างไม้ เมื่อใช้งานไปนานๆแน่นอนอยู่แล้วว่าย่อมเกิดปัญหาเรื่องรอยแตกร้าวของเนื้อไม้ตามมา โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว อากาศแห้ง เย็น บานหน้าต่างเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับอากาศไม้ก็จะเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว แต่พอเข้าฤดูฝนไม้ก็จะเกิดการยืดขยายตัวจากความชื้น เมื่อเป็นเช่นนี้ไม้ก็ไม่สามารถที่จะยืดหดปรับตามสภาพอากาศได้ทัน จึงก่อให้เกิดปัญหารอยแตกของไม้ขึ้น ซึ่งเจ้าพวกรอยแตกเหล่านี้จะมีผลกระทบกับทำให้บานหน้าต่างไม่สวยงามยังไม่นับรวมถึงปัญหาอื่นๆอีก ไม่ว่าจะเป็นเสียงรบกวน แมลงรำคาญ ยุง ฝุ่นผง แม้กระทั้งเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ดังนั้นหากเกิดปัญหาเรื่องรอยแตกร้าวควรที่จะต้องรีบดำเนินการซ่อมแซมบ้าน แต่กรณีที่แตกร้าวไม่มากเท่าไหร่ การเรียกช่างมาจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เราก็สามารถที่จะซ่อมแซมเองได้ไม่ยากค่ะ
วิธีการซ่อมแซมบานหน้าต่างหรือประตูไม้ที่มีรอยแตกร้าว
1.เริ่มจากตรวจสอบสภาพความเสียหายและประเมินก่อน ว่าความเสียหายหนักเบามากแค่ไหน เราพอที่จะรับมือจัดการเองไหวไหม เพราะหากเป็นรอยที่ค่อนข้างใหญ่ก็จำเป็นที่ต้องถอดออกมาก่อนเพื่อที่จะได้ทำงานได้สะดวกขึ้น วิธีการถอดหน้าต่าง คือ เปิดบานหน้าต่างออกมาให้อยู่ในลักษณะทำมุมกับผนังได้ 90 องศา หลังจากนั้นก็ขันนอตออกมา แล้วจึงจับบานหน้าต่างให้ยกขึ้น เพื่อถอดข้อต่อของหน้าต่างให้ออกจากกัน
2.เมื่อถอดบานหน้าต่างหรือประตูออกมาแล้วก็ให้นำมาทำความสะอาดเสียก่อน ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำบีบหมาดๆ เช็ดไปรอบๆบานหน้าต่าง เพื่อขจัดพวกคราบฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะออกเสียก่อน ทิ้งให้แห้ง แล้วนำกระดาษทรายหยาบ หรือจะเป็นแปรงขัดลวดทองเหลือง มาขัดแต่งรอบๆรอยแตก หรือบนตำแหน่งที่พบความผิดปกติ จุดแหว่งบนหน้าต่างให้เรียบร้อยเสียก่อน
3.เตรียมหาวัสดุที่จะใช้ในการอุด หากว่าเป็นรอยแตกที่มีขนาดใหญ่ไม่สามารถหาอะไรมาอุดได้ เราก็อาจจะต้องนำเศษไม้มาตัดแต่งหรือดัดแปลงซะเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับรอยแตก แต่อย่าลืมตรวจสอบก่อนว่าไม้ชิ้นนั้นไม่มีความชื้น หรือเชื้อราปะปนอยู่ และดำเนินการอุดเข้าไปก่อนเพื่อให้เกิดความแข็งแรง โดยขั้นตอนการใช้ไม้ก็ให้นำกาวที่สำหรับติดไม้ทาลงไปบนชิ้นไม้ จากนั้นก็นำชิ้นไม้ประกบลงไปที่ช่องว่าง แล้วกดเอาไว้จนกว่าจะมั่นใจว่ากาวนั้นแห้งสนิทจริงๆ ซึ่งช่วงนี้อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย ส่วนสิ่งที่จะนำมาใช้อุดก็มีให้เลือกหลากหลายแบบแต่ที่นิยมใช้กันมากๆและทำได้ง่ายจะได้แก่
- น้ำมันยาง ผสม ชัน ดินสองพอง และขี้เลื่อยร่อยละเอียด การใช้ส่วนผสมเหล่านี้อาจจะทำให้แห้งช้าใช้เวลา แต่จะให้ความแข็งแรงทนทานได้เป็นอย่างดี สามารถป้องกันน้ำได้อีกด้วย จึงนิยมในการอุดเรือไม่ให้รั่ว
- ผงขี้เลื่อยร่อนละเอียด ผสมกับกาวลาเท็กซ์ ดินสอพอง และอาจจะใส่สีฝุ่นเพื่อให้มีสีที่คล้ายหรือเหมือนกับเนื้อไม้เดิมให้มากที่สุด
- ดินสอพองผสมกับน้ำมันวานิสหรือยูริเทน
4.เมื่อเลือกส่วนผสมที่จะใช้สำหรับอุดได้แล้วก็ให้ส่วนผสมลงไปแล้วปาดให้เรียบ ทิ้งไว้ให้แห้งดีแล้วจึงขัดด้วยกระดาษทรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อที่จะได้เรียบเสมอกับเนื้อไม้
5.เมื่อส่วนผสมที่อุดแห้งดีแล้วก็ทาสารเคลือบเพื่อรักษาผิวไม้ เช่น พวกน้ำยาวู๊ดสเตน แลคเกอร์ หรือสีน้ำมัน จะได้ทำให้เนื้อไม้อยู่ได้นานและคงทนมากยิ่งขึ้น
6.ทิ้งไว้จนแห้งดีก็สามารถที่จะใช้งานได้ตามปกติเหมือนเดิม แต่ในเรื่องของความแข็งแรงทนทานก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอย่างอื่นประกอบด้วย เช่น ตำแหน่งของจุดที่ติดตั้ง การใช้งาน สภาพแวดล้อม รวมทั้งส่วนผสมที่เลือกใช้ในการอุดเนื้อไม้ที่เกิดรอยแตกด้วย
บางครั้งเวลาที่มีส่วนใดส่วนหนึ่งในบ้านเกิดผิดปกติ หรือปัญหาการผุกร่อนของบานหน้าต่างและประตู คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าต้องเปลี่ยนวัสดุใหม่ทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วการซื้อใหม่ทั้งหมดอาจไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง นอกเสียจากว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ยากเกินกว่าจะเยียวยา แต่ถ้าคุณไม่อยากที่จะต้องเสียเงินมาซ่อมแซมบ้านบ่อยๆก็เพียงแค่หมั่นบำรุงรักษาและใช้วิธีซ่อมแซมบ้านดัวยตัวเองให้อยู่ในสภาพที่ดี พร้อมใช้งานเสมอตลอดเวลา แล้วเมื่อทุกครั้งที่ตรวจพบว่ามีตำหนิหรือชำรุดให้รีบดำเนินการแก้ไขก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่โตขึ้นด้วยวิธีง่ายๆที่เราได้แนะนำตามขั้นตอนข้างต้น คุณก็จะได้บานหน้าต่างหรือประตูที่เหมือนได้บ้านใหม่อวดสายตาของเพื่อนบ้านได้อย่างไม่ต้องอายสายตาใครแล้วค่ะ
วิธีดูแลบานหน้าต่างไม้ และป้องกันไม่ให้ผุพัง
ประตูหน้าต่างไม้ในบ้านที่อยู่อาศัยมานานจะเสื่อมโทรมได้ง่ายเมื่อถูกแดด ฝน ความชื้น และอาจเกิดรอยรั่วตามขอบหน้าต่างทำให้น้ำรั่วซึมเข้ามา การซ่อมแซมทั่วไปสามารถทำได้ง่ายๆ แต่หากเป็นกรณีที่ผุพังเสียหายจนเกินกว่าจะเยียวยา การเปลี่ยนหน้าต่างใหม่อาจเป็นทางเลือกที่จะช่วยได้ดีที่สุด และสำหรับการดูแลประตูหน้าต่างไม้ก็สามารถดูแลได้หลากหลายวิธีด้วยกันเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับวัสดุไม้ที่ใช้ภายในบ้าน รวมถึงการเปลี่ยนประตูหน้าต่างใหม่สำหรับบ้านทั่วไปสามารถทำได้โดยการถอดประตูหรือหน้าต่างเดิมออกแล้วติดตั้งประตูหรือหน้าต่างใหม่เข้าไปแทน แต่หากต้องเปลี่ยนวงกบด้วยอาจจะเพิ่มความยุ่งยากและต้องใช้เวลาในการรื้อถอนวงกบและซ่อมแซมผนังปูนรอบๆด้วย และต้องเผื่อเวลาให้ปูนแห้งอย่างน้อย 1 วัน ก่อนที่จะติดตั้งวงกบใหม่
และเมื่อวางแผนจะเปลี่ยนประตูหน้าต่างไม้ ควรเลือกทีมช่างที่มีความชำนาญในการติดตั้งและรื้อถอนเพื่อป้องกันความเสียหายต่อผนังปูน และควรทำการวัด ตัด ประกอบให้ถูกต้องเพื่อป้องกันการขนเอาบานประตูกลับไปแก้ไขใหม่ ส่วนการซ่อมสีบานประตูไม้สามารถทำเองได้ด้วยการซ่อมแซมสีบานประตูไม้ตามขั้นตอนที่กำหนด ทั้งนี้เจ้าของบ้านควรพิจารณาปัจจัยต่างๆก่อนการตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนประตูหน้าต่างไม้ทั้งบานหรือจะซ่อมแซม เพื่อประหยัดเวลาและเงินในขั้นตอนดำเนินการต่างๆ และลดความผิดหวังในภายหลัง
วิธีเลือกวัสดุไม้ สำหรับประตูหน้าต่างไม้
การเลือกประตูบ้านควรเน้นความแข็งแรงและทนทาน เฉพาะประตูหลักของบ้านที่สำคัญมาก เนื่องจากช่วยสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย วัสดุของประตูแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและเหมาะกับการใช้งานแบบไหนบ้าง ซึ่งวิธีเลือกวัสดุบานประตูก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญด้วยเช่นกัน โดยในปัจจุบันวัสดุหลายชนิดสามารถใช้ทดแทนไม้ได้ ซึ่งวิธีการดูแลวัสดุเหล่านี้ก็สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน และสามารถดูแลได้ง่ายมากกว่าวัสดุไม้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตั้งวงกบประตูที่บางกว่าผนัง และการดูแลรักษาประตูหน้าต่างไม้ไม่ให้ผุพังมีดังนี้
1. บานประตูไม้ทั่วไป
ไม้เป็นวัสดุที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะสามารถหาซื้อได้ง่ายและเข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ ไม้ที่นำมาทำประตูจะเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้สัก ไม้โอ๊ค ซึ่งมีความสวยงาม ทนทาน แต่ต้องเลือกใช้ในบริเวณที่ไม่โดนน้ำ เช่น ประตูหน้าบ้าน และควรบำรุงรักษาอยู่เสมอ
2. บานประตูไม้ WPC
บานประตู WPC หรือไม้สังเคราะห์เป็นวัสดุใหม่ที่ทดแทนไม้จากธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน กันปลวก ไม่ติดไฟ และสามารถใช้งานได้ทุกส่วนของบ้านทั้งภายในและภายนอก
3. บานประตูไม้แบบ HDF
ประตูไม้ HDF หรือประตูแผ่นใยไม้เหมาะสำหรับใช้เป็นประตูภายใน เนื่องจากมีคุณภาพดีกว่าประตูไม้อัด MDF และสามารถทนความชื้นได้ดี แต่ไม่เหมาะสำหรับการใช้ภายนอก และควรให้เป็นห้องน้ำที่มีการแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งอย่างชัดเจน และควรระบายอากาศได้ดีด้วย
4. บานประตู PVC
ประตูชนิดนี้เป็นทางเลือกที่ดีในการใช้แทนวัสดุไม้หรือกึ่งไม้ เนื่องจากเป็นวัสดุสังเคราะห์ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องความชื้นและปลวก แต่ไม่เหมาะสำหรับการใช้ภายนอกหรือบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง เนื่องจากอาจทำให้บานประตูกรอบเสียหาย และเนื้อวัสดุที่บางอาจงัดแงะได้ง่าย ดังนั้นเหมาะสำหรับการใช้ภายในบ้านเท่านั้น เช่น ประตูห้องน้ำ หรือ ประตูห้องครัว
การดูแลบานประตูหน้าต่างที่เป็นวัสดุที่ทำขึ้นจากไม้นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องเอาใจใส่หรือให้ความสำคัญเป็นพิเศษ นั่นเพราะว่าไม้บางชนิดนั้นไม่มีความทนทานเหมือนกับวัสดุทดแทนชนิดอื่นๆทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้เกี่ยวกับรอยร้าว หรือรอยแตกของไม้ แต่ทั้งนี้วิธีป้องกันปัญหาเหล่านี้ก็มีอยู่หลายวิธีด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการเลือกทาสีเคลือบไม้ที่มีคุณสมบัติป้องกันสภาพอากาศได้หลากหลาย หรือป้องกันแมลง รวมถึงสีเคลือบบางชนิดยังสามารถทำให้คุณสมบัติความทนทานของไม้นั้นเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย สำหรับการเลือกวัสดุไม้ที่ใช้สำหรับบานประตูหรือบานหน้าต่างหากเลือกได้ถูกหรือตรงกับสภาพอากาศของบ้านก็จะสามารถเพิ่มความทนทานหรือลดปัญหารอยแตกร้าวพี่อาจเกิดขึ้นได้กับบานหน้าต่างหรือบานประตูไม้ได้ด้วยเช่นกัน
โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon