บทความอัพเดทล่าสุดเมื่อ June 23, 2023

ติดผ้าม่าน มีส่วนช่วยอย่างมากในลดความร้อนจากแสงแดด เพราะในการก่อสร้างบ้านบางครั้งเจ้าของบ้านก็ไม่สามารถเลือกทิศทางของตำแหน่งห้องได้ ด้วยขนาดของพื้นที่หรือการวาง lay out ที่ค่อนข้างจำกัด ส่งผลให้บางห้องจะต้องเจอแดดกระทบเต็มๆ ยิ่งหากเป็นห้องนอน หรือห้องรับแขกด้วยแล้ว ทางแก้ไขที่ทำได้ก็คือ การติดผ้าม่านเพื่อทำหน้าที่ป้องกันแสงแดด ช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยได้ นอกจากนั้นผ้าม่านยังทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้านทำให้บ้านดูสวยงามมากขึ้น แต่ใช่ว่าผ้าม่านทุกชนิดจะสามารถไปติดได้ทุกห้อง ม่านบางชนิดก็เหมาะกับห้องนอน บางชนิดก็เหมาะกับห้องน้ำ รวมทั้งการเลือกลวดลายให้เหมาะสมกับสีห้อง ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญเจ้าของบ้านควรรู้เพื่อที่จะได้เลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งาน ดังนั้น วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับ การเลือกผ้าม่าน 4 ห้องภายในบ้านว่า ควร หรือ ไม่ควร ใช้ผ้าม่านแบบไหนดี นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมมาฝากอย่าง ข้อควรรู้ก่อนการติดผ้าม่านและวิธีตกแต่งบ้านอย่างไรให้เย็นมากขึ้น จะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้าง ลองไปดูกันเลย


1. ห้องครัว (Kitchen)

ติดผ้าม่าน

สำหรับห้องครัวอย่างที่ทราบกันว่าเป็นส่วนที่ต้องเจอกับไฟ ควัน เศษอาหาร และคราบสกปรกเลอเทอะจากการทำอาหารที่เกิดขึ้น ทั้งในขณะเตรียมและปรุงอาหารในทุกๆวัน ซึ่งโดยปกติจะไม่ค่อยนิยมติดผ้าม่านที่ห้องครัว เพราะติดเรื่องการทำความสะอาด อีกทั้งต้องทนความร้อนได้ด้วย

  • ควร เพราะฉะนั้นถ้าหากต้องการติดผ้าม่านที่ห้องครัวจริงๆ ก็ควรเลือกใช้ผ้าม่านที่เนื้อผ้าเปื้อนยาก น้ำหนักไม่มากเกินไป เป็นผ้าม่านสั้นๆ สามารถแกะออกมาซักได้สะดวกแล้วติดตั้งกลับไปง่าย และที่สำคัญจะต้องทนต่อความร้อน เช่น ม่านม้วนซันสกรีน ซึ่งทำความสะอาดได้ ปรับระดับแสงตามการใช้งาน แถมมีฟังก์ชั่นกันเชื้อราและกันการลามของไฟ แม้ราคาจะค่อนข้างสูงแต่ก็ได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า
  • ไม่ควร วัสดุผ้าม่านที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ ม่านที่ติดไฟง่าย เช่น มูลี่ไม้ หรือผ้าม่านที่อมกลิ่นหรือฝุ่น ถอดซักยาก เนื้อหน้าอย่างพวกผ้าเนื้อกำมะหยี่หนาๆ แม้ว่าจะดูสวยงามและหรูหรา แต่ไม่เหมาะกับการใช้งาน รวมทั้งการใช้ม่านอลูมิเนียม เพราะไอระเหยจากน้ำมันจะเข้าไปจับสะสม ทำความสะอาดได้ยาก

2. ห้องนอน (Bedroom)

ติดผ้าม่าน

ห้องนอนคือห้องที่มีการใช้งานมากที่สุดในบ้าน อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าวันละ 6-8 ชั่วโมง เพราะใช้เป็นทั้งห้องพักผ่อนและทำกิจกรรมส่วนตัว จึงควรเน้นบรรยากาศที่ทำให้สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

  • ควร ผ้าม่านต้องมีคุณสมบัติในการกรองแสงได้ดี เพื่อให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ไม่ถูกแสงรบกวนในช่วงขณะที่นอนหลับพักผ่อน จึงควรเลือกใช้ผ้าม่านแบบแบล็คเอาท์ (Blackout) ซึ่งเป็นผ้าแบบทึบแสงกันแดดได้ถึง 100% หรือผ้าม่านกันแสงดิมเอาท์ (Dim-out) ที่ช่วยกันทั้งแสงและความร้อน
  • ไม่ควร ผ้าม่านที่มีลักษณะโปร่ง ผ้าโปร่ง เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะห้องที่มีการวางตำแหน่งหัวนอนติดผนังกระจกขนาดใหญ่ เพราะแสงและความร้อนจะเข้ามาภายในห้องได้มากกว่าปกติ ในช่วงเช้าแสงปริมาณมากจะส่องเข้ามาแยงตาทำให้นอนหลับไม่สบาย อีกทั้งยังไม่มีความเป็นส่วนตัว

3. ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก (Living Room)

ติดผ้าม่าน

เป็นอีกห้องหนึ่งที่มีความสำคัญของบ้าน ส่วนมากแล้วจะอยู่บริเวณด้านหน้าสุด ซึ่งเป็นจุดที่ใครผ่านไปมาจะเห็นได้เด่นชัด การเลือกผ้าม่านจึงต้องมีความพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะถือได้ว่าเป็นหน้าตาของทั้งบ้านและเจ้าของ

  • ควร ควรติดม่านที่คุณสมบัติในการกรองแสง เน้นความเป็นส่วนตัวโดยไม่ปิดทึบมากจนเกินไป เลือกลวดลายผ้าม่านให้มีดีไซน์ที่เข้ากับโทนสีและสไตล์ของห้อง เช่น ถ้าตกแต่งห้องเป็นสไตล์วินเทจผนังสีครีม ก็อาจจะเลือกเป็นผ้าม่านลายดอกไม้สดใส หรือถ้าเป็นห้องที่มีขนาดเล็กก็ติดตั้งม่านแบบพับสีอ่อนๆที่ไม่กินพื้นที่ ถ้าต้องการให้สวยมากขึ้นก็ทำเป็นผ้าม่าน 2 ชั้นคือ ผ้าม่านกันแสงชั้นหนึ่ง และมีผ้าโปร่งๆ อีกชั้น ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศให้กับห้องได้ดี สวยงาม
  • ไม่ควร กรณีที่เป็นห้องขนาดเล็กไม่ควรเลือกผ้าม่านที่มีลายขนาดใหญ่ เพราะจะยิ่งทำให้ห้องดูแคบและชวนน่าอึดอัด เนื้อผ้าไม่ควรหนาและทึบแสงมากเกินไปจนแสงส่องเข้ามาไม่ได้ และไม่ควรเลือกผ้าม่านก่อนที่จะเลือกสีผนัง เพราะหากเลือกผ้าม่านที่สีสันขัดกับภาพรวมของห้องจะทำให้ดูไม่สบายตา สำหรับห้องรับแขกมักจะติดผนังประตูที่เป็นกระจกจึงไม่เหมาะกับม่านแบบม้วน เพราะจะทำให้บังวิวทิวทัศน์ด้านนอก

4. ห้องทำงาน (Working Room)

ติดผ้าม่าน

ห้องทำงานถือว่าเป็นห้องที่ต้องการสมาธิในการทำงานสูง และมีความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ แต่ต้องมีแสงสว่างเพียงพอเพื่อช่วยถนอมสายตา การเลือกผ้าม่านจึงต้องดูฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก

  • ควร เลือกผ้าม่านที่ควบคุมแสงจากภายนอกได้ดี ไม่ทึบแสง หรือ แสงเข้ามากเกินไป สามารถเปิดปิดสะดวก ส่วนใหญ่จะนิยมเป็นม่านมูลี่แบบปรับองศา ช่วยควบคุมปริมาณแสงเหมาะกับการใช้งานในแต่ละวัน ส่วนโทนสีก็เลือกตามภาพรวมของห้องหรือตามความชอบก็ได้
  • ไม่ควร ใช้ผ้าม่านม้วนแบบโปร่งแสง เพราะแสงจะเข้ามาในห้องปริมาณมากเกินไป อีกทั้งยังทำให้ภายในห้องสะสมความร้อนและเกิดแสงรบกวนการใช้สายตาในขณะทำงาน ที่สำคัญไม่ควรเน้นผ้าม่านที่มีลวดลายหรือใช้สีหลายเฉด เพราะจะส่งผลต่อการทำงาน อาจทำให้เสียสมาธิได้

การเลือกผ้าม่านเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากผ้าม่านที่เหมาะสมจะช่วยให้บ้านของคุณมีความสวยงามและอบอุ่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันแสงแดดและเสียงดังเข้ามาในบ้านได้อีกด้วย แต่หากเลือกผ้าม่านที่ไม่เหมาะสมกับห้อง อาจจะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาได้ตามที่คุณต้องการ ดังนั้น คุณควรพิจารณาด้วยความรอบคอบและคิดให้ดีก่อนเลือกซื้อผ้าม่านค่ะ


สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการติดตั้งผ้าม่าน

หลังจากทราบกันไปแล้วสำหรับวิธีติดผ้าม่าน ต่อมาเราก็อยากจะแนะนำเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับข้อควรรู้ก่อนการติดผ้าม่านและวิธีตกแต่งบ้านอย่างไรให้เย็นมากขึ้น จะมีข้อมูลอะไรดี ๆ ที่น่าสนใจบ้างลองไปดูกันเลยค่ะ


ข้อควรรู้ก่อนการเลือกผ้าม่าน

เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะเลือกผ้าม่านที่เหมาะสมกับห้องในบ้านของคุณ ไม่เพียงแค่ช่วยป้องกันแสงแดดและเสียงดังเข้ามาในบ้าน แต่ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและอบอุ่นให้กับบ้านของคุณ ดังนั้นข้อควรรู้ในการตกแต่งบ้านคุณควรพิจารณาด้วยความรอบคอบและคิดให้ดีก่อนเลือกซื้อผ้าม่าน เพื่อให้ได้ผ้าม่านที่เหมาะสมกับห้องและมีคุณภาพดี โดยมีหลักการพิจารณาดังนี้

  • ควรพิจารณาว่าผ้าม่านที่เลือกจะเหมาะสมกับห้องที่ต้องการติดตั้งหรือไม่
  • ควรตรวจสอบความยาวและความกว้างของหน้าต่างและจะต้องเผื่อระยะสำหรับเสื้อผ้าม่านด้วย
  • ควรเลือกชนิดของผ้าม่านที่เหมาะสมสำหรับแต่ละห้อง เช่นผ้าม่านที่ใช้ในห้องนอนอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับห้องน้ำ เป็นต้น
  • ควรพิจารณาและเลือกผ้าม่านให้เหมาะสมกับสไตล์และสีของห้อง

การเลือกผ้าม่านที่เหมาะสมจะช่วยให้บ้านของคุณมีความสวยงามและอบอุ่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันแสงแดดและเสียงดังเข้ามาในบ้านได้อีกด้วย


3 วิธีตกแต่งบ้านอย่างไรให้เย็นมากขึ้น

การติดตั้งผ้าม่านช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อนอย่างเดียวคงไม่พอที่จะทำให้บ้านเย็นมากยิ่งขึ้น เราเลยมีไอเดียดี ๆ ในการตกแต่งบ้านอย่างไรให้เย็นมากขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. ติดฟิล์มกรองแสง : การติดฟิล์มกรองแสงไว้ที่บ้านสามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดดบริเวณกระจกได้ดี ซึ่งมีชนิดของฟิล์มที่นิยมใช้ ได้แก่ ฟิล์มใส, ฟิล์มปรอท, ฟิล์มดำ หรือฟิล์มนิรภัย โดยสามารถติดได้ที่บริเวณที่โดนแสงแดดตลอดและสามารถใช้ได้ยาวนาน และสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
  2. ติดม่านกันยูวี : ผ้าม่านกันยูวีทำมาจากเส้นใยโพลิเอสเตอร์ที่คงสภาพได้ดีและทนความร้อน สามารถกันรังสียูวีได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องกลัวว่าความร้อนจะทำลายเล้นใยสังเคราะห์จากผ้าม่าน เพราะเส้นใยพอลิเอสเตอร์จะเคลือบด้วยสารที่ช่วยป้องกันแสงแดดและรังสียูวี และยังช่วยให้บ้านเย็นขึ้นอีกด้วย
  3. ปลูกต้นไม้รักษาความเย็น : วิธีธรรมชาติที่ช่วยเย็นบ้าน ปรับปรุงทัศนียภาพและบริสุทธิ์ของอากาศ รวมถึงร่มเงาจากต้นไม้ที่ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้ดี สามารถช่วยคลายร้อนได้อย่างดีเหมาะสำหรับการพักผ่อน

การเลือกผ้าม่านที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยทำให้บ้านของคุณมีความสวยงามและกันความร้อนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งต่ยังช่วยป้องกันรังสี UV ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้อีกด้วย ดังนั้น คุณควรพิจารณาด้วยความรอบคอบและคิดให้ดีก่อนเลือกซื้อผ้าม่าน เพื่อให้ได้ผ้าม่านที่เหมาะสมกับห้องและมีคุณภาพดี

Con Mueangsak

เขียนโดย Con Mueangsak

โฟร์แมนเป็นงานประจำ เขียนบทความเกี่ยวกับช่างและงานก่อสร้างเป็นงานเสริม รักการก่อสร้างเป็นชีวิตจิตใจ สนใจติดต่องานก่อสร้างติดต่อในอีเมลได้เลยครับ ผู้เขียนเว็บไซต์ Constructacon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save