การเดินไฟแบบฝังผนัง และ การเดินลอย ควรเลือกแบบไหนดี
อีกหนึ่งการตัดสินใจที่เจ้าของบ้านจะต้องคิดหนักสักนิด นั่นก็คือการเดินสายไฟ ซึ่งมี 2 รูปแบบใหญ่ ๆ ให้คุณได้เลือก นั่นก็คือ การเดินไฟแบบฝังผนัง และการเดินไฟแบบเดินลอย คำถามที่จะเกิดขึ้นก็คือ คุณควรเลือกเดินไฟแบบไหนดี ถึงจะตอบโจทย์กับการใช้งาน การดูแลรักษา ความปลอดภัย และทัศนียภาพที่สวยงามโดยรวมของบ้านหรือภายในห้อง วันนี้เราก็ได้นำ 2 รูปแบบของการเดินไฟในบ้าน หรืออาคารประเภทนี้มาแนะนำให้คุณได้ทำความรู้จักกัน คุณจะได้เลือกการเดินไฟที่ดีมีคุณภาพ และตรงโจทย์กับการออกแบบที่สวยงามตามที่คุณต้องการ
เดินไฟแบบลอย คืออะไร
จัดเป็นการเดินสายไฟประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เป็นวิธีเดินสายไฟในลักษณะเลื้อยแนบติดชิดกับผนัง ในส่วนของวิธีจัดเก็บสายไฟประเภทนี้ให้เป็นระเบียบ มี 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่….แบบตีกิ๊บและแบบร้อยท่อ สำหรับวิธีตีกิ๊บจะเดินสายไฟแบบเปิด คุณจะเห็นเส้นสายไฟขนาดใหญ่แนบติดชิดไปกับผนัง จนกระทั่งมีการเชื่อมต่อไปยังเต้ารับ และเครื่องใช้ไฟฟ้า และอีกรูปแบบแบบหนึ่ง นั่นก็คือ การเดินสายไฟแบบร้อยสายผ่านท่อ PVC หรือท่อเหล็กแบบยึดผนัง วิธีนี้เหมาะมากกับผู้ที่ชื่นชอบการออกแบบบ้านในสไตล์ Loft Industrial Style ให้อารมณ์แบบดิบ เท่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเพื่อให้ได้รูปแบบการเดินไฟแบบลอยให้ตรงตามสเป็กที่วางไว้ การเลือกบริษัทที่ได้มาตรฐาน ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยคุณสามารถเข้าไปเลือกดูบริษัทเหล่านั้นได้ เพียงแค่เข้าไปดูที่นี่ บริษัทรับสร้างบ้าน
จุดเด่นของการเดินสายไฟแบบลอย
การเดินสายไฟแบบที่เห็นได้จากภายนอกนี้ จะทำให้คุณประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณ ใช้เวลาในการติดตั้งอย่างรวดเร็ว ขั้นตอนติดตั้งไม่ยุ่งยาก แค่ยึดสายไฟหรือท่อติดผนังหรือเพดานเท่านั้น ซึ่งสามารถมองเห็นแนวสายไฟได้จากภายนอก และยังสะดวกต่อการซ่อมแซม เพราะหากเกิดการชำรุดเสียหายก็สามารถตรวจเช็คได้ทันที สามารถปรับปรุง ซ่อมแซม เพิ่ม-ลดสายไฟภายหลังได้อย่างสะดวก ไม่ต้องรื้อผนัง นอกจากนี้การเดินสายไฟในท่อ นอกจากจะเป็นการจัดเก็บสายไฟให้เป็นระเบียบแล้ว ก็ยังป้องกันแมลงหรือหนูกัดแทะสายไฟได้อีกด้วย
สิ่งที่ควรพิจารณา ในการเดินสายไฟแบบลอย
ต้องมีการวางแผน ในการเดินสายไฟภายนอกให้มีความเป็นระเบียบสวยงาม โดยเฉพาะแบบตีกิ๊บ ในกรณีที่มันของคุณมีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก หากวางแผนในการเดินสายไฟไม่ดี ก็อาจจะทำให้สายไฟดูรกเต็มผนังบ้าน และการร้อยสายไฟในท่อ ก็ต้องมีการจัดเลี้ยงแบบพอเหมาะ ไม่ยัดสายไฟอย่างเกะกะภายในท่อร้อย ไม่ทำให้สายไฟอึดอัด และต้องมีความยาวที่เหมาะสม เพราะในกรณีที่อาจสายไฟเยอะเกินไปอาจจะทำให้เกิดการลัดวงจรจากการกดทับก็เป็นได้ หรือในกรณีที่มีการใช้ท่อร้อยสายไฟผิดประเภท หรือคุณภาพไม่ดี ก็จะทำให้ เกิดการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว หรือเกิดอันตรายจากการใช้งานไฟฟ้าได้
เดินสายไฟแบบฝัง คืออะไร
เป็นการเดินสายไฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในบ้านทั่วไป หรืออาคารสถานที่ต่าง ๆ เป็นการเดินสายไฟในท่อร้อยสายไฟ (Electrical Conduit) ที่ฝังไว้ในผนัง และฝ้าเพดาน ทำให้ผนังบ้านมีความเรียบไปทั้งผืนไม่มีสายไฟ และไม่มีท่อสายไฟให้เห็น
จุดเด่นของการเดินสายไฟแบบฝัง
จุดเด่นที่สำคัญประการแรกคือความสวยงาม และในส่วนของคุณภาพ ในกรณีที่ช่างทำงานได้อย่างเรียบร้อย มีมาตรฐาน ก็จะมีความทนทานในการใช้งานยาวนานนับสิบปี ปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้ารั่วไหล และเหมาะมากกับบ้านที่เลือกใช้ผนังเบา เพราะขั้นตอนในการติดตั้งจะมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก เนื่องจากว่าผนังชนิดนี้ภายในจะมีโครงที่ทำให้เดินสายไฟได้ง่าย สามารถติดตั้งท่อร้อยสายไฟระหว่างติดตั้งโครงคร่าว ๆ ได้เลย
สิ่งที่ควรพิจารณา การเดินสายไฟแบบฝัง
ในกรณีที่บ้านของคุณเป็นผนังก่ออิฐ การซ่อนสายไฟไว้ในผนังอิฐเป็นเรื่องที่ทำได้แต่ว่ายุ่งยาก ดังนั้นต้องวางแผนการก่อสร้างเป็นอย่างดี และต้องใช้ช่างผู้ชำนาญเท่านั้น ในกรณีที่คุณเลือกการเดินสายไฟในรูปแบบนี้ แนะนำว่าควรที่จะต้องเช็กงาน และตรวจตราระหว่างการฝั่งสายไฟอย่างต่อเนื่องด้วยตนเอง
เพราะในกรณีที่คุณจ้างช่างที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ หรือทำงานอย่างชุ่ย ๆ ก็อาจจะมีการฝังสายไฟไว้แบบมักง่าย และไม่มีการเดินท่อร้อยสายไฟอย่างเหมาะสม ซึ่งก็จะเป็นเหตุให้ทำให้ไฟรั่วง่ายไฟช็อตง่าย และจะส่งผลอันตรายต่อการใช้งานอย่างแน่นอน และอีกหนึ่งข้อเสีย ที่คุณจะต้องทำความรู้จักก่อนที่จะตัดสินใจเลือกการเดินสายไฟประเภทนี้ก็คือ สายไฟอาจเกิดการชำรุดในจุดที่มองไม่เห็นได้ ดังนั้นการซ้อมสายไฟชำรุดที่ซ่อนอยู่ในผนังครั้งหนึ่งจะต้องใช้แรงงานอย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
สุดท้ายนี้ การที่คุณจะตัดสินใจว่า จะเลือกเดินสายไฟแบบฝังผนังหรือการเดินลอย ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณความสวยงามการออกแบบบ้าน และความต้องการของคุณ ซึ่งทั้ง 2 วิธีที่เรานำมาแนะนำนี้ ก็มีข้อดีและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นคุณควรที่จะต้องศึกษาระบบการทำงานเพิ่มเติมอีกสักนิด และต้องเลือกช่างไฟฟ้าที่มีคุณภาพไว้ใจได้ ทำงานอย่างเป็นระเบียบและใส่ใจในทุกขั้นตอน ซึ่งนอกจากการเดินสายไฟของคุณจะมีความสวยงามแล้ว ก็ยังมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย การใช้งานที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องในอนาคตอีกด้วย